ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ คู่ NZDUSD ยังคงอยู่ภายใต้แรงขายที่บริเวณ 0.5890 ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้นได้ลดความคาดหวังที่มีต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน ซึ่งให้การสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐ (USD) ถัดมาในวันศุกร์ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประกาศตัวเลขดัชนีราคาเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditures (PCE) - Price Index) ประจําเดือนมิถุนายน
สํานักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี;jkในช่วงไตรมาสที่สอง (Q2) กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ที่ปรับตามฤดูกาลเติบโตที่ 2.8% ต่อปีและอัตราเงินเฟ้อจาก 1.4% ในการประกาศก่อนหน้านี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2%
ในการประชุมนโยบายการเงินที่กําลังจะมาถึงในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม และตลาดยังคงเก็งการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายน นักลงทุนจะได้รับสัญญาณการลงทุนเพิ่มเติมจากข้อมูล PCE ของสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะลดลง ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ PCE ที่ลดลงอาจปูทางให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยหลักทันทีในเดือนกันยายน และทําให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ในด้าน NZD การเก็งมากขึ้นว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการ (OCR) ในเดือนสิงหาคมส่งผลกระทบต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) นอกจากนี้ ความกลัวการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงทำให้กีวีอ่อนค่า เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของนิวซีแลนด์
ดอลลาร์นิวซีแลนด์: คําถามที่พบบ่อย
ปัจจัยสําคัญใดที่ขับเคลื่อนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์?
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่ากีวี เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายกันดีในหมู่นักลงทุน มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวถูกกําหนดโดยความแข็งแรงของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์และนโยบายจากธนาคารกลางภายในประเทศ ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่สามารถทําให้ NZD เคลื่อนไหวได้อย่างเช่น ผลการดําเนินงานของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยับราคากีวี เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เช่นหากมีข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจจีนก็มักจะหมายถึงการส่งออกของนิวซีแลนด์ไปยังประเทศจีนที่จะน้อยลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและค่าเงิน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ NZD เคลื่อนไหวอย่างเจาะจงคือราคานม เนื่องจากอุตสาหกรรมนมเป็นสินค้าส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ ราคานมที่สูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์
การตัดสินใจของ RBNZ ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์อย่างไร?
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตั้งเป้าที่จะบรรลุและรักษาอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 1% ถึง 3% ในระยะกลาง โดยมุ่งเน้นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางที่ 2% ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงจะกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป RBNZ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้เศรษฐกิจเย็นตัวลง แล้วการดำเนินการดังกล่าวจะทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศและช่วยหนุนค่าเงิน NZD ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะทำให้ NZD อ่อนค่าลง ด้านส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่า Rate Differential ในนิวซีแลนด์คือระดับของอัตราดอกเบี้ยในนิวซีแลนด์หรือที่ธนาคารกลางคาดการณ์ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นหรือกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ ยังสามารถมีบทบาทสําคัญในการขยับคู่เงิน NZD/USD
ข้อมูลทางเศรษฐกิจมีอิทธิพลต่อมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์อย่างไร?
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคในนิวซีแลนด์เป็นกุญแจสําคัญในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง การว่างงานต่ำและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยบวกสําหรับ NZD การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในทางกลับกันหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ สกุลเงิน NZD ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง
ความเชื่อมั่นในความเสี่ยงในวงกว้างส่งผลกระทบต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์อย่างไร?
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ต้องมีความกล้าเสี่ยง หรือแม้เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าความกล้าเสี่ยงของด้านตลาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำแต่มีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตการเติบโต สถานการณ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่แนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และสกุลเงินแบบที่เรียกว่า 'สกุลเงินสายสินค้าโภคภัณฑ์' อย่างเช่นกีวีด้วย NZD มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนหรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมักจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลบไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากกว่า