นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในวันพุธที่ 17 กรกฎาคม:
ในขณะที่การซื้อขายในคู่สกุลเงินหลักต่าง ๆ ยังคงอ่อนแอลง แต่ทองคําไต่ขึ้นสู่ระดับ 2,500 ดอลลาร์และแตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลในช่วงเช้าวันพุธแล้ว Eurostat จะเปิดเผยการแก้ไขข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน และปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลการเริ่มตั้งที่อยู่อาศัย การอนุญาตก่อสร้าง และการผลิตภาคอุตสาหกรรมสําหรับเดือนมิถุนายน ผู้เข้าร่วมตลาดเองจะยังคงให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับความคิดเห็นจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง
สํานักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักรรายงานในช่วงเช้าของยุโรปรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อประจําปีซึ่งวัดจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวที่ 2% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.5% ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ในขณะที่ดัชนีราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 2.9% ตัวเลขทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการประมาณการของนักวิเคราะห์ GBP/USD ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 1.3000 โดยปฏิกิริยาตอบสนองทันที
หลังจากการดีดตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USD) ปิดตลาดทรงตัวในวันอังคารหลังจากพบกับแนวต้านใกล้ 104.50 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันพุธ แต่สามารถทรงตัวได้เหนือ 104.00 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปียังคงอยู่ต่ำกว่า 4.2% หลังจากปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในวันอังคาร และฟิวเจอร์สของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายในแดนลบ
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ เยนญี่ปุ่น
USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
USD | 0.03% | -0.02% | -0.35% | 0.28% | 0.73% | 0.59% | -0.16% | |
EUR | -0.03% | -0.01% | -0.19% | 0.45% | 0.74% | 0.75% | 0.00% | |
GBP | 0.02% | 0.00% | -0.08% | 0.45% | 0.75% | 0.71% | 0.01% | |
JPY | 0.35% | 0.19% | 0.08% | 0.63% | 0.86% | 0.90% | -0.00% | |
CAD | -0.28% | -0.45% | -0.45% | -0.63% | 0.38% | 0.30% | -0.44% | |
AUD | -0.73% | -0.74% | -0.75% | -0.86% | -0.38% | 0.00% | -0.73% | |
NZD | -0.59% | -0.75% | -0.71% | -0.90% | -0.30% | -0.01% | -0.75% | |
CHF | 0.16% | -0.00% | -0.01% | 0.00% | 0.44% | 0.73% | 0.75% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง)
ทองคําได้รับอานิสงส์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร T-bond ของสหรัฐฯ ที่ลดลงในวันอังคาร และปิดกราฟใกล้ 2,470 ดอลลาร์ XAU/USD รักษาโมเมนตัมขาขึ้นไว้ได้ในเซสชั่นเอเชียของวันพุธ และแตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลเหนือ 2,480 ดอลลาร์ ก่อนจะถอยลงมาต่ำกว่า 2,470 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของเซสชั่นยุโรป
USD/CAD พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์เหนือ 1.3700 ในช่วงต้นของเซสชั่นของอเมริกาในวันอังคาร หลังจากข้อมูลจากแคนาดาแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI ประจําปีลดลงเหลือ 2.7% ในเดือนมิถุนายน จากที่ 2.9% ในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตามคู่สกุลเงินดังกล่าวล้มเหลวในการรวบรวมโมเมนตัมขาขึ้นเพิ่มเติมและปิดกราฟรายวันลดลงเล็กน้อยที่ต่ำกว่าระดับ 1.3700 ในเช้าของเซสชั่นยุโรปในวันพุธ USD/CAD แกว่งตัวอยู่ที่ประมาณ 1.3680
ดัชนี CPI ในนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สอง ตัวเลขนี้เกิดขึ้นหลังจากการเพิ่มขึ้น 4% ที่บันทึกได้ในไตรมาสแรก และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% แม้จะมีข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอ แต่ NZD/USD ซื้อขายในแดนบวกเหนือระดับ 0.6050
EUR/USD ผันผวนในกรอบแคบในวันอังคารและปิดกราฟรายวันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คู่นี้ทรงตัวที่บริเวณระดับ 1.0900 ในช่วงเช้าของตลาดยุโรปในวันพุธ
อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่เป็นตัวอ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกไหลเข้าประเทศเพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรเพื่อฝากเงินของพวกเขา
ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ใจปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น