tradingkey.logo

บิตคอยน์ร่วงครั้งใหญ่ถูกจัดการตลาดหรือไม่? ตลาดจะเป็นอย่างไรต่อไป

TradingKey
ผู้เขียนBlock Tao
11 ต.ค. 2025 เวลา 7:07

TradingKey – บิตคอยน์ร่วงลงอย่างรุนแรงเข้าใกล้ระดับ 100,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้เกิดการเทขายอย่างกว้างขวาง เมื่อเป้าหมายสำคัญถูกทำสำเร็จ การฟื้นตัวอาจอยู่ในระยะใกล้

เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมสำหรับสินค้าจีน ส่งผลให้ตลาดหุ้นถล่มลง และลามสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี บิตคอยน์ (BTC) ลดลงมากกว่า 15% ระหว่างวัน แตะระดับใกล้ 100,000 ดอลลาร์ชั่วคราว

btc-price

กราฟราคาบิตคอยน์ — ที่มา: TradingView

ในเวลาเดียวกัน สินทรัพย์ข้ามเชนและสินทรัพย์แบบห่อหุ้ม (wrapped assets) เช่น WBETH และ BNSOL รวมถึงสแตบล์คอยน์อย่าง USST ประสบปัญหาการหลุดค่าผูกมัดอย่างรุนแรง แพลตฟอร์มการซื้อขายหลัก ได้แก่ Coinbase (COIN) และ Binance (BNB) เผชิญปัญหาความล่าช้า ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเพิ่มมาร์จิ้นได้ทันเวลา — ส่งผลให้เกิดการเทขายจำนวนมาก ทั้งสองแพลตฟอร์มออกแถลงการณ์สั้น ๆ ว่าทีมงานกำลังติดตามสถานการณ์และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับแรก

ความผิดปกติที่รุนแรงยิ่งขึ้นเกิดขึ้นกับอัลทคอยน์: ATOM เกือบที่ศูนย์ แตะระดับ 0.001 ดอลลาร์บน Binance ในขณะที่ IOTX ร่วงลงชั่วคราวสู่ 0 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวสู่ 0.01 ดอลลาร์

แม้การเทขายในตลาดคริปโตจะถูกกระตุ้นส่วนใหญ่จากเหตุการณ์มหภาค แต่ผู้สังเกตการณ์ตลาดไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ของการจัดการตลาด — โดยเฉพาะการเทขายสถานะใช้เลเวอเรจขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทั่วไปในตลาดคริปโต นักลงทุนได้รับคำแนะนำให้ไม่ตื่นตระหนก

บิตคอยน์ยังไม่ทะลุระดับรองรับ 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งยืนหยัดมั่นคงมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา หากการทดสอบครั้งที่สองยืนยันพื้นฐานนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเกิดการฟื้นตัว อาจเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการรีบาวด์

เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว

ลิงก์บทความต้นฉบับ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI