tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAGUSD หยุดอยู่ต่ำกว่า $34 ขณะที่ขาขึ้นพยายามหาความแข็งแกร่ง

FXStreet18 มี.ค. 2025 เวลา 23:06
  • ราคาโลหะเงินซื้อขายอยู่ที่ $33.97 ไม่สามารถรักษาระดับเหนือ $34.00 ได้เป็นวันที่สองติดต่อกันท่ามกลางความลังเลของผู้ซื้อ
  • ดัชนี RSI เริ่มแบนใกล้ระดับการเข้าซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ซื้ออาจหยุดพักก่อนที่จะพยายามทะลุขึ้นอีกครั้ง
  • แนวต้านหลักอยู่ที่ $34.51 และ $35.00 ขณะที่แนวรับอยู่ที่ $33.75 ตามด้วย $33.44 หากแรงกดดันด้านลบเพิ่มขึ้น

การปรับตัวขึ้นของราคาโลหะเงินหยุดชะงักเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยผู้ซื้อยังคงไม่สามารถทำลายระดับ $34.00 ได้อย่างเด็ดขาดเป็นวันที่สองติดต่อกัน แม้จะมีการบันทึกจุดสูงสุดประจำปีที่ $34.23 ในขณะที่เขียน XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ $33.97 แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ตลาดเอเชียในวันพุธเริ่มต้นขึ้น

การคาดการณ์ราคา XAG/USD: แนวโน้มทางเทคนิค

ในวันอังคาร โลหะเงินซื้อขายอยู่ในแนวข้างและปิดรายวันต่ำกว่า 50% ของขนาดแท่งเทียน ซึ่งบ่งชี้ว่าไม่ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายก็ไม่สามารถควบคุมตลาดได้ แม้ว่าแนวโน้มโดยรวมจะแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจยังคงดำเนินต่อไป แต่ผู้ดูเหมือนจะหยุดพักตามที่แสดงโดยดัชนี Relative Strength Index (RSI) ที่เริ่มแบนใกล้เขตการเข้าซื้อมากเกินไป

หาก XAG/USD ขึ้นไปเกิน $34.20 แนวต้านหลักถัดไปจะเป็นจุดสูงสุดวันที่ 30 ตุลาคม 2024 ที่ $34.51 ตามด้วยระดับ $35.00 ในทางกลับกัน หากโลหะเงินยังคงอยู่ต่ำกว่า $34.00 แนวรับแรกจะเป็นจุดต่ำสุดวันที่ 18 มีนาคมที่ $33.75 ตามด้วยจุดต่ำสุดวันที่ 17 มีนาคมที่ $33.44

กราฟราคา XAG/USD – รายวัน

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI