
TradingKey - วันที่ 30 พฤศจิกายน 2025: ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% จุดชนวนให้สินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดย Bitcoin (BTC) กลับมายืนเหนือระดับ $110,000 ช่วยเรียกความมั่นใจนักลงทุนหลังเหตุการณ์ “Black Swan 1011” เมื่อเดือนตุลาคม
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจาก การปิดหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ และ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดคริปโตหายไปรวมกว่า $400,000 ล้านดอลลาร์ Bitcoin ร่วงกว่า 17% Altcoin ตัวใหญ่ ๆ ดิ่งกว่า 30% และมีนักเทรดมากกว่า 1.6 ล้านราย ถูกบังคับปิดสัญญา (liquidation) รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ $20,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ liquidate ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกป้องกันด้วยเทคโนโลยี คริปโตกราฟี (Cryptography) และทำงานบนระบบ บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ไม่มีหน่วยงานกลางควบคุม โปร่งใส เข้าถึงได้ทั่วโลก และต้านทานการเซ็นเซอร์
แนวคิดนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในปี 2008 โดยบุคคลนิรนามชื่อ ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ผ่านเอกสาร “Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System” และในปี 2009 เครือข่าย Bitcoin ก็เปิดใช้งานจริง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคคริปโตอย่างแท้จริง
รายการ | คริปโทเคอร์เรนซี | เงินเฟียต |
ผู้ออกเหรียญ/เงิน | บุคคลหรือองค์กรเอกชน | ธนาคารกลางหรือรัฐบาล |
อุปทาน | คงที่หรือถูกควบคุมด้วยอัลกอริทึม | ปรับเปลี่ยนได้ตามนโยบาย |
การเก็บรักษา | กระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) | บัญชีธนาคารหรือเงินสด |
การทำธุรกรรม | แบบ P2P ผ่านบล็อกเชน | ผ่านธนาคารและระบบชำระเงิน |
ความโปร่งใส | ตรวจสอบได้ในบล็อกเชน | ข้อมูลส่วนตัวของธนาคาร |
ความปลอดภัย | ใช้คีย์เข้ารหัส | การรับรองทางกฎหมาย |
ความผันผวน | สูงมาก | ค่อนข้างคงที่ |
สถานะทางกฎหมาย | แตกต่างในแต่ละประเทศ | เป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย |
การเข้าถึง | ใช้ได้ทั่วโลก | จำกัดในประเทศ ต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงิน |
กฎระเบียบ | อยู่ในช่วงพัฒนา | ถูกควบคุมเต็มรูปแบบ |
เทคโนโลยี | Blockchain, Smart Contract | ระบบการเงินแบบรวมศูนย์ |
บางประเทศอย่าง เอลซัลวาดอร์ ยอมรับ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ยังมองว่าเป็น สินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรหรือสินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัล
ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2025 มีเหรียญคริปโตทั้งหมด 19,396 เหรียญ ครอบคลุมกว่า 628 หมวดหมู่ มูลค่าตลาดรวมกว่า $3.81 ล้านล้านดอลลาร์ โดยแต่ละประเภทมีหน้าที่ต่างกันดังนี้
หมวดหมู่ | หน้าที่ | ตัวอย่างเหรียญ |
Layer 1 Coins | เครือข่ายบล็อกเชนหลัก | BTC, ETH, SOL, AVAX, TRX |
Stablecoins | เหรียญผูกกับค่าเงินดอลลาร์ | USDT, USDC, DAI, USDe |
Exchange Tokens | ใช้ในแพลตฟอร์มเทรด | BNB, OKB, CRO, BGB |
DeFi Tokens | การกำกับดูแลและรางวัล | UNI, AAVE, COMP, CRV |
AI Tokens | ระบบอัตโนมัติและไมโครเพย์เมนต์ | RNDR, FET, TAO, WLD |
RWA Tokens | การโทเคนไนซ์สินทรัพย์จริง | ONDO, XAUt, XDC |
Meme Coins | ขับเคลื่อนโดยชุมชนและการเก็งกำไร | DOGE, SHIB, PEPE, FLOKI, TRUMP |
Privacy Coins | ทำธุรกรรมแบบไม่เปิดเผยตัวตน | XMR, ZEC, DASH |
GameFi/NFT | เกมและของสะสมดิจิทัล | AXS, MANA, SAND |
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจากเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงและมีเสถียรภาพ ได้แก่
เหรียญเหล่านี้มีการเทรดอย่างแพร่หลาย ได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลัก และมีฐานนักลงทุนรายใหญ่คอยหนุนหลัง
ในเชิงปัจจัยเชิงนโยบาย เหรียญอย่าง SOL, XRP, LTC, ADA, AVAX และ DOT ควรจับตา เนื่องจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. อาจอนุมัติ Spot ETF สำหรับสินทรัพย์เหล่านี้ในปี 2025-2026 ซึ่งจะเปิดทางให้เงินทุนสถาบันหลั่งไหลเข้ามาอีกมหาศาล โดยเฉพาะ SOL, XRP และ ADA ที่ถูกจัดอยู่ในกองทุนคริปโตสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ สะท้อนถึงการสนับสนุนเชิงนโยบายระยะยาว
วิธี | คำอธิบาย | ความยาก | ความเสี่ยง | โอกาสรับผลตอบแทน |
Airdrop | รับเหรียญฟรีจากโปรเจกต์ใหม่ | ต่ำ | ต่ำ | สูง หากโปรเจกต์เติบโต |
สร้างคอนเทนต์ | เขียนบทความ ทำคลิป หรือสร้างชุมชน | ปานกลาง | ต่ำ | ปานกลาง |
เทรดดิ้ง (Trading) | ซื้อถูกขายแพง | สูง | ปานกลาง | ปานกลาง-สูง |
สเตกกิ้ง (Staking) | ล็อกเหรียญรับดอกเบี้ย | ต่ำ | ต่ำ-ปานกลาง | 4-15% ต่อปี |
ฟาร์มสภาพคล่อง (Liquidity Mining) | ฝากเหรียญใน DEX | ปานกลาง | ปานกลาง-สูง | ปานกลาง |
โหวตใน DAO | มีส่วนร่วมในการกำกับดูแล | ต่ำ | ต่ำ | ต่ำ-ปานกลาง |
รันโหนด / ขุดเหรียญ | ให้บริการโครงสร้างระบบ | สูง | ปานกลาง-สูง | ปานกลาง-สูง |
ขั้นตอนที่ 1: เลือกแพลตฟอร์มเทรด
ขั้นตอนที่ 2: สมัครและเติมเงินในบัญชี
ขั้นตอนที่ 3: ทำการเทรดครั้งแรก
หากต้องการถอนเงินสด → ใช้ระบบ C2C หรือ P2P เพื่อแลก USDT เป็นเงิน Fiat
ประเภทความเสี่ยง | รายละเอียด | ตัวอย่าง |
ความผันผวนของตลาด | ราคาขึ้นลงรวดเร็ว | BTC ร่วง 20% ภายในสัปดาห์เดียว |
ความเสี่ยงจากโปรเจกต์ | ไม่มีแผนพัฒนา / Rug Pull | เหรียญที่ไร้แผนงานหรือยูทิลิตี้ |
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง | ปริมาณซื้อขายน้อย | เหรียญเล็กบนตลาดไม่ดัง |
ความเสี่ยงด้านกฎหมาย | การเปลี่ยนนโยบาย | การแบน Stablecoin หรือ Exchange |
ความเสี่ยงทางเทคนิค | การแฮ็ก / โจรกรรมวอลเล็ต | ช่องโหว่ Smart Contract |
ความเสี่ยงทางอารมณ์ | ซื้อขายตามอารมณ์ | FOMO หรือ Panic Sell |
ข้อมูลไม่เท่าเทียม | คนวงในได้ข้อมูลก่อน | ขายทิ้งหลังโปรเจกต์ดัง |
วิธีป้องกัน:
คริปโทเคอร์เรนซีคือสินทรัพย์แห่งนวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงแต่แฝงไปด้วยความผันผวน สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มลงทุนเล็กน้อย ใช้แพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และให้ความสำคัญกับความรู้ก่อนการเก็งกำไร ไม่ว่าจะเป็นการเทรด การสเตก หรือการเข้าร่วมใน DeFi สิ่งสำคัญคือ ใช้เงินที่สามารถขาดทุนได้โดยไม่กระทบชีวิตประจำวัน และอย่าลืมเรียนรู้ต่อเนื่องในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วนี้
คริปโตถูกกฎหมายไหม?
ถูกกฎหมายในบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป แต่ถูกจำกัดหรือแบนในบางประเทศ เช่น จีน
ต้องเสียภาษีไหม?
ต้องเสียภาษี โดยในหลายประเทศ คริปโตถูกจัดเป็นทรัพย์สิน (Property) และต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gains Tax)
มือใหม่เทรดอนุพันธ์คริปโตได้ไหม?
ทำได้แต่ไม่แนะนำ เพราะมีความเสี่ยงสูง มือใหม่ควรเริ่มจากการเทรด Spot, Staking หรือร่วมกิจกรรม Airdrop ก่อน
ควรลงทุนเท่าไหร่ดี?
ใช้เฉพาะเงินที่สามารถขาดทุนได้โดยไม่กระทบชีวิต เริ่มต้นเพียง $10-$50 ก็เพียงพอสำหรับเรียนรู้พื้นฐานและสร้างประสบการณ์จริง