tradingkey.logo

นักลงทุนสถาบันระมัดระวังมากขึ้นแม้ความตึงเครียดทางการค้าจะลดลง - Jefferies

Investing.com13 พ.ค. 2025 เวลา 12:29

Investing.com — นักลงทุนสถาบันบางรายอาจเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นแม้จะมีความหวังที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการละลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตามรายงานของนักวิเคราะห์จาก Jefferies

ในบันทึกถึงลูกค้า นักวิเคราะห์นําโดย Shujin Chen ระบุว่าความสับสนยังคงมีอยู่โดยเฉพาะเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนในปัจจุบัน หลังจากการประกาศข้อตกลงทางการค้าระหว่างสองประเทศเมื่อวันจันทร์

วอชิงตันตกลงที่จะลดภาษีศุลกากรที่สูงของตนต่อปักกิ่งลงเหลือ 30% หลังจากที่ถูกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 145% โดยประธานาธิบดี Donald Trump ในขณะที่จีนกล่าวว่าจะลดภาษีของตนลงเหลือ 10% จากระดับการตอบโต้ที่ 125% ทั้งสองประเทศยังกล่าวว่าจะระงับภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วัน

การเจรจาการค้าเพิ่มเติมมีการวางแผนระหว่างทั้งสองฝ่าย ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายอาจดําเนินการปรึกษาหารือระดับปฏิบัติการเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจและการค้าที่เกี่ยวข้อง

ที่สําคัญ นักวิเคราะห์ระบุว่าภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนในปัจจุบันรวมภาษีพื้นฐาน 10% กับภาษีก่อนหน้านี้ 20% ที่เรียกเก็บจากปักกิ่งเกี่ยวกับบทบาทที่ถูกกล่าวหาในการไหลเวียนของยาเสพติดผิดกฎหมายเฟนทานิล

อย่างไรก็ตาม การประมาณการอื่นๆ ซึ่งคํานวณภาษีเพิ่มเติมที่กําหนดในสมัยแรกของ Trump ที่ครอบคลุมประมาณสองในสามของการนําเข้าจากจีนและยังคงมีผลบังคับใช้ ระบุระดับเฉลี่ยของภาษีอยู่ที่ 40% ถึง 50%

การประมาณการที่ "แม่นยํามากขึ้น" ของตัวเลขจะอยู่ที่ "49.5%" นักวิเคราะห์กล่าว โดยอ้างอิงข้อมูลจากคลังความคิดของสหรัฐฯ The Peterson Institute for International Economics

นักวิเคราะห์ของ Jefferies กล่าวว่าพวกเขาคาดการณ์ว่าจะเกิด "การฟื้นตัวของตลาดในระยะสั้นมาก" ซึ่งขับเคลื่อนโดยการลดความมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน การคาดการณ์กําไรที่สูงขึ้นสําหรับบริษัทที่มุ่งเน้นการส่งออก และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นในจีน

อย่างไรก็ตาม พวกเขาเตือนว่านักลงทุนสถาบัน "กําลังระมัดระวังมากขึ้น" เนื่องจากตลาดให้ความสําคัญกับการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังเชิงนโยบายมากกว่า "ปัจจัยพื้นฐาน" หรือปัจจัยพื้นฐานที่รองรับการประเมินมูลค่าหุ้น

ฟิวเจอร์สของตลาดหุ้นชี้ว่าจะลดลงอย่างกว้างขวางในวันอังคาร หลังจากหุ้นในวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในเซสชั่นก่อนหน้านี้

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI