tradingkey.logo

หุ้น EchoStar ร่วงหลังข่าว FCC เริ่มสอบสวน

Investing.com12 พ.ค. 2025 เวลา 18:47

Investing.com — หุ้นของ EchoStar Corporation (NYSE: SATS) ลดลง 8.7% หลังจาก Wall Street Journal รายงานว่าคณะกรรมการกลางกํากับดูแลการสื่อสาร (Federal Communications Commission) ได้เริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกําหนดของรัฐบาลกลางในการสร้างเครือข่าย 5G ทั่วประเทศของบริษัท ข่าวนี้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับความท้าทายด้านกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นและอนาคตของแผนการขยายเครือข่ายของบริษัท

การสอบสวนของ FCC (BME:FCC) มุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบว่า EchoStar ได้บรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลสหรัฐฯ กําหนดไว้ในปี 2019 สําหรับการรักษาใบอนุญาตเครือข่ายมือถือที่มีมูลค่าสูงหรือไม่ เป้าหมายเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะให้แน่ใจว่า EchoStar ซึ่งเป็นเจ้าของ Dish Network (NASDAQ:DISH) และ Boost Mobile จะสามารถให้บริการไร้สายความเร็วสูงตามที่ได้สัญญาไว้ รวมถึงในพื้นที่ชนบท รายงานระบุว่าแม้ EchoStar อ้างว่าเครือข่าย 5G ของบริษัทครอบคลุมประชากรมากกว่า 268 ล้านคนและได้ปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมายทั้งหมดแล้ว แต่ FCC กําลังขอความคิดเห็นเกี่ยวกับคําร้องที่จะพิจารณาทบทวนการตัดสินใจให้เวลาบริษัทเพิ่มเติมในการสร้างเครือข่าย

Charlie Ergen ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง EchoStar กล่าวว่าบริษัทได้ร่วมมือกับ FCC มาอย่างยาวนานและเน้นย้ําว่าเครือข่ายของ EchoStar มีส่วนช่วยในการสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน แม้จะเป็นเช่นนี้ การสอบสวนของ FCC เกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาที่ท้าทายสําหรับ EchoStar รวมถึงการลดลงของฐานผู้ใช้บริการของ Boost Mobile นับตั้งแต่ซื้อกิจการจาก Sprint เมื่อห้าปีที่แล้ว

Brendan Carr ประธาน FCC แสดงความเห็นในจดหมายว่า ข้อผูกพันในการสร้างเครือข่ายถูกกําหนดขึ้นเพื่อป้องกันการกักตุนคลื่นความถี่และเพื่อขยายการเข้าถึงบริการไร้สายความเร็วสูง การสอบสวนโดย FCC อาจใช้เวลาหลายปีและอาจไม่จําเป็นต้องนําไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในทันที อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดต่อข่าวนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกําลังประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการตรวจสอบด้านกฎระเบียบ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI