Investing.com — ดอยช์แบงก์รายงานว่ามีการลดลงอย่างมีนัยสําคัญของเงินลงทุนจากต่างประเทศในสินทรัพย์สหรัฐอเมริกาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่มภาษีนําเข้า ตามข้อมูลจาก George Saravelos หัวหน้าฝ่าย FX Research ที่ดอยช์แบงก์ ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการไหลเข้าของเงินทุนในสหรัฐอเมริกาเป็นที่น่ากังวล การวิเคราะห์ของธนาคารชี้ว่ามีการหยุดชะงักอย่างชัดเจนของการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นความท้าทายต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากประเทศมีการขาดดุลคู่
ดอยช์แบงก์ได้ติดตาม Exchange-Traded Funds (ETF) ขนาดใหญ่เกือบ 400 กองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ของสหรัฐอเมริกา และมีถิ่นที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป ETF เหล่านี้เป็นตัวแทนของกิจกรรมการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากมักถูกใช้โดยนักลงทุนที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันเพื่อลงทุนในตลาดอเมริกัน ข้อมูลระบุว่ามีการขายหุ้นและพันธบัตรสหรัฐอย่างต่อเนื่องโดยนักลงทุนต่างชาติในช่วงเวลานี้
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการขายหุ้นโดยชาวต่างชาติพุ่งสูงสุดในสัปดาห์ที่มีการประกาศภาษีนําเข้า แต่ยังคงเป็นลบตั้งแต่นั้นมา การขายตราสารหนี้เริ่มต้นก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมและยังคงดําเนินต่อไป การไหลออกอย่างต่อเนื่องนี้เกิดขึ้นแม้จะมีการฟื้นตัวของราคาสินทรัพย์สหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนต่างชาติยังคงไม่มีแนวโน้มที่จะลงทุนในสินทรัพย์สหรัฐ
นอกจากข้อมูล ETF แล้ว ดอยช์แบงก์ยังพิจารณาข้อมูลจาก EPFR ซึ่งติดตามการไหลของกองทุนในยานพาหนะการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงแบบ passive และ active กองทุนปิด และกองทุนเปิด ข้อมูล EPFR ยืนยันแนวโน้มที่สังเกตเห็นใน ETF แสดงให้เห็นถึงการหยุดชะงักอย่างฉับพลันในการซื้อหุ้นและการขายพันธบัตรที่รุนแรงยิ่งขึ้น ชุดข้อมูลนี้รวมถึงฐานนักลงทุนที่กว้างขึ้นและนักลงทุนที่อาจเคลื่อนไหวช้ากว่า ซึ่งอาจอธิบายถึงความแตกต่างในผลการค้นพบ
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน