Investing.com — อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกและที่ปรึกษาทําเนียบขาวคนสําคัญ ได้ขอร้องโดยตรงต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ลดความรุนแรงของมาตรการภาษีนําเข้า ตามรายงานของ Washington Post เมื่อวันจันทร์
มัสก์ได้ขอร้องทรัมป์ด้วยตนเอง แต่ในที่สุดก็ไม่ประสบความสําเร็จในการเปลี่ยนใจประธานาธิบดี รายงานของ Washington Post ระบุ โดยอ้างถึงแหล่งข่าวสองคนที่คุ้นเคยกับการหารือดังกล่าว
บริษัทของมัสก์ โดยเฉพาะ Tesla (แนสแด็ก:NASDAQ:TSLA) มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีนําเข้า แม้ว่า Tesla จะผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ขายในสหรัฐฯ ภายในประเทศ แต่ก็ยังคงนําเข้าชิ้นส่วนหลายอย่างจากจีนและประเทศอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมายของภาษีนําเข้าของทรัมป์
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มัสก์ยังได้โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียหลายครั้งวิจารณ์ พีท นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าระดับสูงของทําเนียบขาว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ประกาศมาตรการภาษีนําเข้าครั้งใหญ่ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ต่อเศรษฐกิจหลักหลายแห่ง จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยภาษีนําเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนตอนนี้รวมแล้วประมาณ 54%
ทรัมป์ขู่ว่าจะเพิ่มภาษีนําเข้าอีก 50% กับจีนหากปักกิ่งไม่ให้ความร่วมมือตามข้อเรียกร้องของเขา แต่กระทรวงพาณิชย์จีนประณามการขู่ของทรัมป์ โดยเตือนว่าปักกิ่งจะ "สู้จนถึงที่สุด" ในการเผชิญหน้ากับภาษีนําเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น
ภาษีนําเข้าของทรัมป์ต่อจีนคาดว่าจะก่อให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอย่างรุนแรงสําหรับบริษัทอเมริกันรายใหญ่หลายแห่ง โดย Apple Inc (แนสแด็ก:NASDAQ:AAPL) ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากภาษีนําเข้าใหม่นี้
ภาษีนําเข้าของทรัมป์มีกําหนดจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธนี้
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน