Investing.com - ราคาทองคำปรับตัวลดลงในตลาดเอเชียวันนี้ แต่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดล่าสุด เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น และความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งที่ตึงเครียดมากขึ้น
ราคาทองคำพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงกลางคืนและเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงแข็งแกร่ง โดยปัจจัยหนุนเพิ่มเติมนั้นมาจากคำกล่าวล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าเขายังคงมีแผนจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อแคนาดาและเม็กซิโกภายในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งบริหารที่ครอบคลุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมุ่งจำกัดการค้าและการลงทุนของจีนเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศย่ำแย่ลงอีก
ราคา ทองคำตลาดสปอต ลดลง 0.5% มาเป็น 2,947.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนลดลง 0.3% มาเป็น 2,952.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:03 น. (GMT+7) ราคาทองคำสปอตแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,956.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ความต้องการทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากคำแถลงล่าสุดของทรัมป์เกี่ยวกับภาษีการค้าต่อแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าจะถูกบังคับใช้หลังจากกำหนดเส้นตายในวันที่ 4 มีนาคม
มาตรการดังกล่าวอาจนำไปสู่การตอบโต้จากทั้งสองประเทศ ซึ่งอาจทำให้สงครามการค้าทั่วโลกรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ต่อจีนยังอาจกระตุ้นให้ปักกิ่งใช้มาตรการตอบโต้เพิ่มเติม ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน และจีนก็ตอบโต้ด้วยการออกมาตรการภาษีและควบคุมการส่งออก
Bloomberg รายงานว่า รัฐบาลของทรัมป์กำลังพิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออกชิปไปยังจีน ซึ่งอาจยิ่งทำให้จีนไม่พอใจมากขึ้น
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งบริหารฉบับใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการลงทุนและการส่งออกของจีนเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่เข้มงวดต่อปักกิ่ง
ดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง
ปัจจัยเหล่านี้กดดันค่าเงินดอลลาร์ และกระตุ้นการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ประจำไตรมาสที่สี่ที่กำลังจะประกาศในปลายสัปดาห์นี้อาจให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มดังกล่าวได้
แม้ว่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ราคาโลหะอื่น ๆ ก็ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับของทองคำ โดยสัญญา แพลตตินัมฟิวเจอร์ส ลดลง 0.5% มาเป็น 971.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 32.623 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ทองแดงฟิวเจอร์ส บนตลาด London Metal Exchange ลดลง 0.3% มาเป็น 9,465.20 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ สัญญาทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมลดลง 0.4% เป็น 4.5420 ดอลลาร์ต่อปอนด์