Investing.com - ราคาทองคำเคลื่อนไหวแบบทรงตัวถึงต่ำลงในวันนี้ โดยยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดล่าสุด เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมาตรการภาษีการค้า
ทองคำทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเพิ่มภาษีการค้าอีก
ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังช่วยกระตุ้นความต้องการทองคำ โดยเฉพาะหลังจากที่ตัวเลขดัชนี PMI และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอเมื่อวันศุกร์
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์อาจกระตุ้นให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นโดยรวม
ราคาทองคำสปอต ขยับขึ้น 0.1% มาเป็น 2,940.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนทรงตัวที่ 2,952.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 12:37 น. (GMT+7)
ความกังวลด้านเศรษฐกิจและภาษีผลักดันความต้องการทองคำ
ราคาทองคำสปอตยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดที่ 2,954.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเคยไปถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ตลาดการเงินโดยรวมเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก ดัชนีหุ้นเอเชียก็ปรับลดลงในวันนี้ตามรอยการขาดทุนที่รุนแรงในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์
ความเสี่ยงในตลาดยังเพิ่มขึ้นหลังจากที่ดัชนี PMI ภาคบริการ ของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ ประกอบกับดัชนี ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่อ่อนแอ จึงทำให้เกิดความกังวลว่าการใช้จ่ายของภาคเอกชนกำลังชะลอตัว
ข้อมูลเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลว่าการใช้จ่ายภาคเอกชนที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังชะลอตัวลงท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงสูงและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
ปัจจัยเหล่านี้ได้ช่วยหนุนความต้องการทองคำ ซึ่งเดิมทีก็ได้รับแรงหนุนจากการที่ทรัมป์ขู่จะเพิ่มภาษีการค้าในหลายภาคส่วนหลักอยู่แล้ว รวมถึงมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้ารายสำคัญของสหรัฐฯ
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เป็นประโยชน์ต่อโลหะอื่น ๆ
เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดัชนีดอลลาร์ ลดลง 0.3% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งในตลาดเอเชียวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐก็ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้โลหะมีค่าชนิดอื่น ๆ ได้รับอานิสงส์ แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะแตกต่างกันไป โดย แพลตตินัมฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.6% มาเป็น 994.0 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 32.998 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ทองคำยังคงมีผลตอบแทนที่เหนือกว่าโลหะมีค่ากลุ่มอื่น ๆ เป็นส่วนใหญ่ในปี 2025
ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ทองแดงมาตรฐาน บนตลาด London Metal Exchange ลดลง 0.2% มาเป็น 9,535.95 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมทรงตัวที่ 4.6170 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ราคาทองแดงอยู่ในช่วงขาขึ้นที่แข็งแกร่งตลอดเดือนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการนำเข้าทองแดงของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่สุดของโลก