Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นในวันนี้ นำโดยเงินวอนของเกาหลีใต้ หลังจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่ความสนใจยังมุ่งไปที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเกาหลี (BoK) ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ปรับตัวลดลง 0.4% มาเป็น 106.18 ในช่วงการซื้อขายเอเชีย
ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ก็ปรับตัวลดลง 0.4% เช่นกัน ณ เวลา 11:56 น. GMT+7
เงินเอเชียได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
สกุลเงินในเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวเกือบหยุดนิ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง
นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ยังถูกปรับลดลงอย่างมากสู่ระดับ 64.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 67.8 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
สกุลเงินในภูมิภาคอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากจากภัยคุกคามด้านภาษีของรัฐบาลทรัมป์ และการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงดำเนินอยู่
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอล่าสุดได้ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และช่วยหนุนค่าเงินในเอเชียให้ฟื้นตัวขึ้น
USD/CNH ของเงินหยวนจีนในตลาดนอกประเทศ ปรับตัวลดลง 0.3%
AUD/USD ของดอลลาร์ออสเตรเลีย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4%
USD/SGD ของดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลง 0.3% ขณะที่ USD/INR ของรูปีอินเดีย ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.1%
USD/JPY ของเงินเยนญี่ปุ่น ขยับลง 0.1% ขณะที่ USD/MYR ของริงกิตมาเลเซีย อ่อนค่าลง 0.4%
ธนาคารกลางเกาหลีมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
เงินวอนเกาหลีใต้ถือเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดย USD/KRW ปรับตัวลดลง 0.6%
ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีกำหนดการณ์ประกาศ การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย ในวันอังคารนี้ ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BoK จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุด จาก 3.00% เป็น 2.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
เศรษฐกิจเกาหลีใต้เติบโตอย่างซบเซา โดยขยายตัวเพียง 0.1% ในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศยังคงวุ่นวาย หลังจากการถอดถอนและจับกุมประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจยิ่งซบเซาลงไปอีก
ในเดือนมกราคม 2025 BoK ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.00% อย่างไม่คาดคิดนั้นก็เพื่อช่วยพยุงค่าเงินวอนที่อ่อนค่าลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง