Investing.com - ราคาน้ำมันทรงตัวในตลาดเอเชียวันนี้ หลังข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ความกังวลเกี่ยวกับภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐก็ยังคงมี
ราคาน้ำมันเผชิญกับแรงกดดันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ และความเป็นไปได้ที่แผนกำหนดภาษีการค้าของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากแผนของทรัมป์ในการเพิ่มการผลิตพลังงานในสหรัฐฯ ขณะที่เขายังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดราคาน้ำมันลง
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมทรงตัวที่ 77.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 73.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:31 น.(GMT+7)
น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เมื่อวันอังคารระบุว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.86 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มกราคม น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล
ข้อมูล API มักจะประกาศตัวเลขที่คล้ายกันกับ รายงานสินค้าคงคลังน้ำมันอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีกำหนดการณืจะเผยแพร่ในวันนี้
ก่อนหน้านี้ สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงต่อเนื่องถึง 9 สัปดาห์ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพื่อทำความร้อนเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการเดินทางก็เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดสิ้นปี
แม้ว่าความต้องการน้ำมันในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก จะยังคงแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนยังต้องจับตาการเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันในยุคของทรัมป์ หลังจากที่เขาประกาศ “ภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเร่งการผลิตน้ำมันในประเทศ
จับตาภาษีของทรัมป์และการประชุมเฟด
ทำเนียบขาวได้กล่าวย้ำเมื่อวันอังคารว่า ทรัมป์จะเดินหน้ากำหนดภาษีศุลกากรต่อแคนาดา จีน และเม็กซิโก ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันเสาร์นี้
ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และกำหนดภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10%
ภาษีต่อจีนถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลเป็นพิเศษสำหรับตลาดน้ำมัน เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และมาตรการนี้อาจเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อประเทศ
ตลาดจีนปิดทำการตลอดสัปดาห์เนื่องในวันหยุดตรุษจีน แต่ก่อนวันหยุด ข้อมูลดัชนี PMI ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ได้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจของจีนยังคงซบเซา
นอกจากภาษีของทรัมป์แล้ว นักลงทุนยังต้องให้ความสนใจกับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้ ซึ่งคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเฟดจะ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ และอาจส่งสัญญาณเชิง hawkish ต่อแนวโน้มดอกเบี้ย
เงิน ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นก่อนการประชุมเฟด ซึ่งก็เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดน้ำมันเช่นกัน