tradingkey.logo

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐร่วงหลังทรัมป์เรียกเก็บภาษีศุลกากรโคลอมเบีย จับตาการประชุมเฟด

Investing.com27 ม.ค. 2025 เวลา 2:03

Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐร่วงลงในช่วงเย็นวันอาทิตย์ หลังจากที่วอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับโคลอมเบีย ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐและการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้

S&P 500 ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.5% มาเป็น 6,103.0 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ลดลง 1.2% มาเป็น 21,646.25 จุด ณ เวลา 06:45 น.(GMT+7) ด้าน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับลงเล็กน้อย 0.2% มาเป็น 44,535.0 จุด

ทรัมป์เรียกเก็บภาษีและคว่ำบาตรโคลอมเบีย

ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรและมาตรการคว่ำบาตรกับโคลอมเบีย หลังจากที่ประเทศในละตินอเมริกาปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เครื่องบินส่งตัวผู้ถูกเนรเทศของสหรัฐ 2 ลำลงจอด ซึ่งคำสั่งดังกล่าวถูกระบุว่าเป็นนโยบายของประธานาธิบดี Gustavo Petro ของโคลอมเบีย

ทรัมป์กล่าวว่าจะเรียกเก็บภาษีถึง 25% กับการนำเข้าจากโคลอมเบียทั้งหมด โดยมีผลทันทีและจะเพิ่มเป็น 50% ในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังประกาศมาตรการห้ามเดินทางและเพิกถอนวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลอมเบียและบุคคลใกล้ชิด

ในทางกลับกัน โคลอมเบียขู่ที่จะเรียกเก็บภาษี 50% กับสินค้าสหรัฐ การเรียกเก็บภาษีใหม่เหล่านี้คาดว่าจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะต่อการส่งออกของโคลอมเบีย เช่น น้ำมัน กาแฟ และดอกไม้ ซึ่งพึ่งพาตลาดสหรัฐอย่างหนัก

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีกับเม็กซิโก แคนาดา จีน และสหภาพยุโรปในวันที่ 1 กุมภาพันธ์

จับตาการประชุมเฟดและข้อมูลเงินเฟ้อ

นักลงทุนยังมีความระมัดระวังก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของ ธนาคารกลางสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

ตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เช่น ดัชนีราคา PCE กับ GDP เบื้องต้น ประจำไตรมาสที่สี่ รวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ประจำเดือนธันวาคม และตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคมก็จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด

DeepSeek ของจีนกดดันหุ้น AI ก่อนรายงานผลประกอบการจากยักษ์ใหญ่

ในภาคเทคโนโลยี สตาร์ทอัพด้าน AI ของจีนอย่าง DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ R1 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับโมเดลชั้นนำของสหรัฐอย่าง ChatGPT ของ OpenAI แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก

ความก้าวหน้านี้ได้สร้างแรงกดดันต่อบริษัทในภาคฮาร์ดแวร์ AI เช่น NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ซึ่งราคาหุ้นลดลงกว่า 3% ในวันศุกร์ และคาดว่าจะเผชิญแรงกดดันจากข่าวประกาศดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดวอลล์สตรีทก็ยังมีผลกำไรในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมของ Netflix (NASDAQ:NFLX) และการเปิดตัวโครงการ Stargate

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 6,101.24 จุด ขณะที่ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2.2% มาเป็น 44,424.25 จุด และ NASDAQ คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 1.7%

ตลาดยังรอรายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Meta Platforms Inc (NASDAQ:META) Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) และ Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของภาคเทคโนโลยีและชี้นำความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI