คู่ GBP/USD ขยับต่ำลงมาเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นเอเชียของวันพฤหัสบดี และย่อตัวลงอีกจากระดับสูงสุดในรอบสามเดือนที่บริเวณ 1.2860 ซึ่งไปแตะระดับวันก่อน ในการตอบสนองต่อรายงานตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐที่อ่อนตัวลง ราคาสปอตสำหรับตอนนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้นสามวันติดต่อกันแล้ว และปัจจุบันซื้อขายที่บริเวณระดับ 1.2785 ลดลง 0.10% สำหรับในรายวัน
เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีฐานแข็งแรงขึ้นจากการดีดตัวในช่วงข้ามคืนจากระดับต่ำสุดรายสัปดาห์ หลังจากเห็นความประหลาดใจเชิง hawkish จากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งบ่งชี้ว่าในปีนี้ความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้น้อยลง นอกจากนี้ ตัวเลขรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่เมื่อวันพุธแสดงได้ให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร (UK) มีการหยุดชะงักไปในเดือนเมษายนหลังจากการฟื้นตัวอันน้อยนิดจากสภาวะถดถอยในปีที่แล้ว ซึ่งในทางกลับกันปัจจัยนี้ได้ถูกมองว่าเป็นตัวกดดันสกุลเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และมีส่วนทำให้แรงขายรอบ ๆ คู่เงิน GBP/USD
จากมุมมองทางเทคนิค ความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ในการยืนเหนือระดับ 1.2800 ทำให้เกิดปัจจัยเตือนให้ระวังสำหรับเทรดเดอร์ขาขึ้น ก่อนเห็นสถานการณ์การเลือกตั้งระดับชาติของสหราชอาณาจักรในวันที่ 4 กรกฎาคม อย่างไรก็ดีนั้น สัญญาณออสซิลเลเตอร์สองทางในกราฟรายวันทำให้ยิ่งควรระมัดระวังในการรอแรงขายติดตามมาอย่างแข็งแกร่งก่อน ก่อนที่จะยืนยันว่าการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งล่าสุดจากจุดต่ำสุด YTD ที่ไปแตะระดับในเดือนเมษายนได้สิ้นสุดลงแล้ว แล้วจึงค่อยวางเดิมพันในการอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญในคู่ GBP/USD ต่อไป
ในขณะเดียวกัน การปรับตัวขาลงเพิ่มเติมใด ๆ มีแนวโน้มที่จะพบแนวรับใกล้กับโซนแนวนอนที่ 1.2755-1.2750 ซึ่งต่ำกว่าระดับนั้น ราคาสปอตอาจร่วงลงไปที่แนวรับระดับกลางที่ 1.2715-1.2710 หากการลดลงยังขยายออกไปอีกไปยังภูมิภาค 1.2690-1.2685 ระหว่างทางไปสู่แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย (SMA) 100 วัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ใกล้กับบริเวณระดับ 1.2640-1.2635 จะเห็นทะลุระดับขาลงไปอย่างน่าเชื่อก็จะถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นใหม่สำหรับแรงตลาดหมี และเปิดทางไปสู่การปรับตัวขาลงเพิ่มเติมอีก
ในทางกลับกัน โมเมนตัมเชิงบวกที่สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 1.2800 ได้ อาจยังคงไปชนกับแนวต้านใกล้บริเวณ 1.2855-1.2860 โดยการแข็งค่าขึ้นที่ยั่งยืนเกินกว่าระดับนั้นน่าจะช่วยให้คู่ GBP/USD เข้าทดสอบจุดสูงสุด YTD อีกครั้ง ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.2900 ซึ่งไปแตะเมื่อเดือนมีนาคม และอาจไต่ขึ้นไปอีกจนถึงแนวต้าน 1.2950 ก่อนที่จะตั้งเป้าหมายที่จะกลับไปยืนเหนือระดับทางจิตวิทยาที่ 1.3000 อีกครั้ง ให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023