หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ IBIT ของ Blackrock ตระหนักถึงปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ โดยมีการซื้อขายมากกว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF อาวุโสของ Bloomberg กล่าวว่าปริมาณการซื้อขาย IBIT เพิ่มขึ้น 10% และสูงกว่าปริมาณการซื้อขายสำหรับ หุ้นเช่น Berkshire, Netflix หรือ Visa
Bitcoin ETF ของ Blackrock มีปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ไม่นานหลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งของ Donald Trump ETF มีการซื้อขายมากกว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีมูลค่ามากกว่าที่หุ้นอื่นๆ เห็น
Eric Balchunas บน X โพสต์ ความสำเร็จอันเหลือเชื่อนี้ โดยเรียกว่าเป็น "วันที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา" สำหรับ IBIT เขาพูดว่า:
นอกจากนี้ยังเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งเป็นวันที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่เปิดตัว บางส่วนจะแปลงเป็นการไหลเข้าน่าจะเข้าสู่คืนวันอังคาร คืนวันพุธ
-เอริค บัลชูนาส
Blackrock ไม่ใช่เทรดเดอร์ ETF เพียงรายเดียวที่มีปริมาณการซื้อขายที่น่าประทับใจ จากข้อมูลของ Balchunas Bitcoin ETF ซื้อขาย รวมกัน 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ “วันแรกที่บ้าคลั่ง” ในเดือนมกราคม เขาเสริมว่า ETF เหล่านี้ส่วนใหญ่ซื้อขายมากกว่าค่าเฉลี่ยถึงสองเท่า ทำให้ ETF เหล่านี้ซื้อขายกันตลอดทั้งวัน
แม้แต่ราคาของ Bitcoin ก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 76,500 ดอลลาร์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ปัจจุบัน Bitcoin ซื้อขายที่ 74,802 ดอลลาร์ ลดลง 2.2% เล็กน้อยจากจุดสูงสุดของวันก่อน
หลังจากชัยชนะของทรัมป์และคำมั่นสัญญาของเขาที่จะแนะนำนโยบายการเข้ารหัสลับที่เป็นประโยชน์ นักวิเคราะห์สกุลเงินดิจิทัลมีทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับการได้รับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ETF ของ iShares ที่ได้รับความนิยมบางส่วนในเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน และชิลี ร่วงลงเมื่อวันพุธ แม้ว่าดัชนีสำคัญๆ ของสหรัฐฯ จะทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าตลาด crypto ของสหรัฐฯ อาจเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ตลาดต่างประเทศก็อาจใช้ไม่ได้เช่นเดียวกัน
นอกเหนือจากตลาด crypto ทั่วโลก หุ้นอื่นๆ ทั้งหมดอาจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประธานาธิบดี dent เลือกให้สัญญาว่าจะขึ้นภาษีสำหรับการนำเข้าทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจากประเทศจีน
ตามที่ Yung-Yu Ma ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ BMO Wealth Management กล่าว ในขณะที่ภูมิทัศน์การลงทุนของสหรัฐฯ ยังคงมองไปในทางบวก ตลาดโลกยังคงมีความอ่อนไหวต่อนโยบายภาษีเป็นพิเศษ ซึ่งอาจขัดขวางไม่ให้หุ้นต่างชาติกลับหัวขึ้นในระยะสั้น