tradingkey.logo

คาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ร่วงต่ำกว่า $34.00 ขณะที่เฟดรับรู้ถึงความไม่แน่นอน

FXStreet19 มี.ค. 2025 เวลา 21:26
  • โลหะเงินถอยลงสู่ระดับ $33.78 จากจุดสูงสุดที่ $34.09 หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
  • รูปแบบขาลง เช่น 'quasi-shooting star' และ 'hanging man' แสดงถึงความเป็นไปได้ในการลดลงเพิ่มเติม
  • แนวรับหลักที่ $33.39; การทะลุลงต่ำกว่าอาจเปิดโอกาสให้ทดสอบที่ $33.00 แนวต้านที่ $34.51 และ $35.00 หากฝั่งขาขึ้นมีการปรับตัวขึ้น

ราคาโลหะเงินปิดตลาดในวันพุธด้วยการขาดทุนมากกว่า 0.55% หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจยังไม่แน่นอนเนื่องจากนโยบายการค้าของสหรัฐที่ดำเนินการโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ณ เวลาที่เขียน XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ $33.78 หลังจากทำจุดสูงสุดในวันที่ $34.09

การคาดการณ์ราคา XAG/USD: แนวโน้มทางเทคนิค

การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสองวันที่ผ่านมาเปิดโอกาสให้มีการลดลงเพิ่มเติมในราคาโลหะเงิน รูปแบบ ‘quasi-shooting star’ ตามด้วย ‘hanging man’ แสดงให้เห็นว่าผู้ขายกำลังดัน XAG/USD ต่ำกว่าระดับ $34.00 ซึ่งอาจสนับสนุนการปรับฐานหากโลหะเงินลดต่ำกว่าจุดสูงสุดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ $33.39 การทะลุระดับนี้จะเปิดโอกาสให้ทดสอบที่ $33.00

หาก XAG/USD ปรับตัวสูงขึ้นเกิน $34.00 แนวต้านหลักถัดไปจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในวันที่ 30 ตุลาคม 2024 ที่ $34.51 ตามด้วยระดับ $35.00

กราฟราคา XAG/USD – รายวัน

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI