น้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 66.00 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ ราคา WTI ยังคงอยู่ในแนวรับใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสามปี เนื่องจากเทรดเดอร์กังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีระหว่างสหรัฐฯ แคนาดา และจีน รวมถึงแผนการของ OPEC+ ที่จะเพิ่มกำลังการผลิต
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งบริหารในช่วงเช้าวันนี้ ยกเว้นสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกภายใต้ข้อตกลงการค้าอเมริกาเหนือที่เรียกว่า USMCA เป็นระยะเวลา 1 เดือนจากภาษี 25% ที่เขาเรียกเก็บในช่วงต้นสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีภายใต้การบริหารของทรัมป์ยังคงส่งผลกระทบต่อราคา WTI
การเพิ่มขึ้นของคลังน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ยังส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดำ คลังน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 3.614 ล้านบาร์เรล เมื่อเปรียบเทียบกับการลดลง 2.332 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า ตามรายงานประจำสัปดาห์ของสำนักงานข้อมูลด้านพลังงาน (EIA) ความเห็นของตลาดคาดว่าคลังน้ำมันจะลดลง 290,000 บาร์เรล
OPEC+ ซึ่งรวมถึงประเทศสมาชิกองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร เช่น รัสเซีย ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดำลดลง ความเสี่ยงด้านอุปสงค์ในขณะนี้น่าจะมีมากกว่าความเสี่ยงด้านอุปทานจากน้ำมันเพิ่มเติมที่มาจาก OPEC กล่าวโดย สกอตต์ เชลตัน นักวิเคราะห์พลังงานที่ TP ICAP
เทรดเดอร์น้ำมันจะจับตาการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์นี้ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง หากรายงานแสดงผลลัพธ์ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์และทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นในระยะสั้น