tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ปรับตัวลดลงเกือบ 4% ในกราฟรายสัปดาห์จากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่ง

FXStreet28 ก.พ. 2025 เวลา 23:02
  • XAG/USD ลดลงสู่ $31.13 โดยมีความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้น
  • โลหะเงินไม่สามารถรักษาระดับเหนือ $33.00 ได้ ส่งผลให้เกิดการปรับฐานและแรงขาย
  • ราคาได้ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันที่ $31.20; แนวรับหลักถัดไปที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ $30.89
  • การทะลุต่ำกว่า $30.89 อาจเปิดโอกาสให้ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ $30.47 และจุดต่ำสุดในเดือนมกราคมที่ $29.70

โลหะเงินสิ้นสุดสัปดาห์ด้วยแนวโน้มที่ลดลง เกือบ 4% เนื่องจากเทรดเดอร์ปิดออเดอร์ทำกำไรท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยในสหรัฐฯ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของสหรัฐฯ ขณะนี้ XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ $31.13 ลดลง 0.32%

การคาดการณ์ราคา XAG/USD: แนวโน้มทางเทคนิค

โลหะสีเทาแสดงสัญญาณการปรับฐานหลังจากไม่สามารถเคลียร์ระดับ $33.00 ได้อย่างเด็ดขาดในระดับการปิดรายวัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการวิ่งขึ้นไปที่ระดับ $34.00 แทนที่ราคา XAG/USD สปอตได้เคลียร์เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย 100 วัน (SMA) ที่ $31.20 เปิดโอกาสให้ทดสอบเส้น SMA 50 วันที่ $30.89

แม้ว่าฝั่งหมีจะผลักดันราคาให้ลดลง แต่ผู้ซื้อก็สามารถกลับมาที่ $31.00 อย่างไรก็ตาม ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) แสดงให้เห็นว่าฝั่งผู้ขายกำลังรวบรวมโมเมนตัม

ดังนั้น แนวรับแรกของ XAG/USD จะเป็นเส้น SMA 50 วันที่ $30.89 หากมีการอ่อนตัวเพิ่มเติม การทะลุระดับดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ทดสอบเส้น SMA 200 วันที่ $30.47 หากผู้ขายสามารถเอาชนะสองระดับนี้ได้ แนวโน้มจะเปลี่ยนไปในทิศทางขาลง และฝั่งหมีจะพร้อมท้าทายจุดต่ำสุดในวันที่ 27 มกราคมที่ $29.70

กราฟราคา XAG/USD – รายวัน

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI