tradingkey.logo

พรีวิวรายงาน Nonfarm Payroll เดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ: อัตราว่างงาน 4.3% จะปูทางให้ปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมหรือไม่?

TradingKey
ผู้เขียนEsteban Ma
2 ก.ค. 2025 เวลา 11:12

TradingKey – วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ จะเผยแพร่รายงาน Nonfarm Payroll เดือนมิถุนายน โดยเลื่อนขึ้นหนึ่งวันเนื่องในโอกาสวันประกาศอิสรภาพ นักวิเคราะห์มองว่ารายงานฉบับนี้อาจเผยสัญญาณเบื้องต้นว่ามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์กำลังส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และอาจยิ่งหนุนความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะช่วยหนุนทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้สหรัฐฯ

ตามรายงานของ FactSet นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า

  • การจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นประมาณ 115,000 ตำแหน่ง ในเดือนมิถุนายน ลดลงจาก 139,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม
  • อัตราว่างงานจะปรับตัวขึ้นเป็น 4.3% สิ้นสุดช่วงสามเดือนที่ทรงตัวที่ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดทางประวัติศาสตร์

us-nonfarm-payrolls

การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ แหล่งที่มา: TradingKey

สัญญาณเย็นตัวของตลาดแรงงาน

แม้รายงานเดือนพฤษภาคมจะแสดงให้อัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.2% แต่การเติบโตของการจ้างงานจบที่ 126,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ และมีการปรับลดตัวเลขย้อนหลังลง 95,000 ตำแหน่ง สะท้อนสัญญาณแรกของการเย็นตัวในตลาดแรงงาน

นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets เห็นว่า “รอยร้าว” ในความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานเริ่มปรากฏชัด เมื่อความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างประเทศและความเข้มงวดทางการคลังยังคงอยู่ จะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อการจ้างงาน

ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ยอดจ้างงานเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 135,000 ตำแหน่ง เทียบกับ 186,000 ตำแหน่งในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ข้อมูลล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องพุ่งขึ้น 37,000 ราย เป็น 1.974 ล้านราย สูงสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2021 สูงกว่าคาดที่ 1.95 ล้านราย

ความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม

หลังการประชุม FOMC เดือนมิถุนายน ธนาคารกลางสหรัฐฯได้เผยแพร่ Summary of Economic Projections (SEP) ฉบับใหม่ที่สะท้อนมุมมองระมัดระวังมากขึ้น โดย

  • ปรับลดคาดการณ์ GDP จาก 1.7% เหลือ 1.4%
  • ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานจาก 4.4% เป็น 4.5%
  • พร้อมกับปรับเพิ่มการคาดการณ์เงินเฟ้อ PCE ทั้งหัวข้อหลักและแบบตัดราคาพลังงานและอาหาร

แม้ว่าสมาชิก FOMC ยังคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี แต่ความคิดเห็นล่าสุดจาก Christopher Waller และ Michelle Bowman แสดงความเปิดกว้างต่อการดำเนินการในเร็วขึ้น หากตัวชี้วัดเงินเฟ้อยังควบคุมได้ดีและตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรง

Powell ยังไม่ปิดโอกาส

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวที่งานฟอรัม ECB ในโปรตุเกส ว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีศุลกากรยังทำให้ผู้กำหนดนโยบายต้องระมัดระวัง เพราะยังไม่ชัดว่านโยบายเหล่านี้จะส่งผลต่อเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม เขาส่งสัญญาณว่า หากไม่กังวลว่าจะไประงับกระบวนการลดเงินเฟ้อ ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างแข็งขันมากกว่านี้แล้ว แม้จะไม่ตัดความเป็นไปได้ของมาตรการในการประชุม FOMC เดือนกรกฎาคม แต่ก็ย้ำว่า ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ

Nick Timiraos นักเศรษฐศาสตร์จาก Wall Street Journal สังเกตว่าท่าทีของ Powell แสดงถึงความพยายามรักษาความยืดหยุ่นของนโยบายการเงินไว้ในช่วงฤดูร้อน

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯมักต้องการสัญญาณชัดเจนของภาวะถดถอยก่อนจึงจะพิจารณาผ่อนคลาย แต่ตัวเลขจ้างงานที่อ่อนตัวกว่าคาดและการอ่านเงินเฟ้อที่เบาลงช่วงปลายฤดูร้อนอาจเพียงพอที่จะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง

หุ้นและพันธบัตรปรับตัวขึ้นรับข่าวคาดลดดอกเบี้ย

แม้มีความผันผวนสูงจากนโยบายการค้าต้นปี ตลาดหุ้นและพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงปิดครึ่งปีแรก 2025 ด้วยผลตอบแทนแข็งแกร่ง

  • S&P 500 และ Nasdaq Composite ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล
  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำผลงานครึ่งปีแรกได้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี

Morgan Stanley ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ S&P 500 ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า โดยระบุว่าความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะผ่อนคลายนโยบายต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญ

Goldman Sachs เพิ่งปรับคาดการณ์ จากเดิมคาดลดดอกเบี้ยครั้งเดียวในเดือนธันวาคม เป็นสามครั้งเริ่มตั้งแต่กันยายน ขณะที่ Wells Fargo, Citi และ UBS มองโลกในแง่ดียิ่งกว่า คาดว่าจะมีการปรับลดอีก 3-4 ครั้งภายในสิ้นปี 2025

เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ราคาพันธบัตรปรับตัวขึ้น และมูลค่าหุ้นแข็งแกร่ง ตลาดสินทรัพย์ทางการเงินดูจะพร้อมสำหรับการเติบโตต่อ หากธนาคารกลางสหรัฐฯเดินหน้ามุ่งสู่ท่าทีพิราบ

ตรวจสอบโดยYulia Zeng
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ได้สะท้อนท่าทีอย่างเป็นทางการของ Tradingkey ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น และผู้อ่านไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยอิงจากเนื้อหาของบทความนี้เท่านั้น Tradingkey ไม่รับผิดชอบต่อผลการเทรดใด ๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาบทความนี้ นอกจากนี้ Tradingkey ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องของเนื้อหาบทความ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใดๆ ขอแนะนำให้ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้

บทความแนะนำ

KeyAI