TradingKey - เมื่อวันที่ 25 กันยายน ข้อมูลเศรษฐกิจเผยว่า GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปี ขณะที่คำร้องขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ข้อมูลที่แข็งแกร่งนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเส้นทางการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ความคาดหวังของตลาดต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมลดลง
ตามข้อมูลของ CME FedWatch หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ความคาดหวังของตลาดต่อการลดอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ของเฟดในเดือนตุลาคมลดลงจาก 91.9% เหลือ 85.5% และความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมก็ลดลงเช่นกัน
เมื่อเร็วๆ นี้คำปราศรัยของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงถึงความขัดแย้งภายใน: รองประธาน Bowman และผู้ว่าการชั่วคราว Milan สนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประธานเฟดแคนซัสซิตี้ Jeff Schmid และประธานเฟดชิคาโก Austan Goolsbee แสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเกรงว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วอาจเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิด พร้อมกับความขัดแย้งสาธารณะระหว่างเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับเส้นทางการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้การตัดสินใจในที่ประชุมเดือนตุลาคมของเฟดยากขึ้นในการคาดการณ์
ตามข้อมูลจาก Morningstar ผู้ค้าคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยได้ถึงหกหรือเจ็ดครั้งภายในตุลาคมปีหน้า แต่ความคาดหวังเหล่านี้ได้ลดลงแล้ว
การเปลี่ยนแปลงความคาดหวังนี้สะท้อนในตลาดพันธบัตรด้วย เมื่อวันพฤหัสบดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทุกช่วง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 4.2% ในระหว่างการซื้อขาย แสดงถึงความชอบของนักลงทุนต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนสูงกว่า นักวิเคราะห์ชี้ว่านี่เป็นเพราะนักลงทุนคาดว่าความอ่อนแอในตลาดแรงงานไม่ค่อยจะเลวร้ายลงอย่างมากและส่งผลให้เกิดความอ่อนแอทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ซึ่งจะบังคับให้เฟดต้องดำเนินการลดอัตราต่อไป
การวิเคราะห์ของ Morningstar ชี้ให้เห็นว่าแม้นโยบายการเงินโดยรวมยังชี้ไปที่การผ่อนคลายเพิ่มเติม แต่ความเร็วของการลดอัตราดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจน สถานะของตลาดแรงงานและข้อมูลอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่ 4 อาจเป็นตัวกำหนดขั้นตอนถัดไป
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว