tradingkey.logo

ทรัมป์เตรียมสู้คดีหลังสั่งปลดลิซ่า คุก สมาชิกเฟด ข้อกล่าวหาปลอมเอกสารสินเชื่อ

TradingKey
ผู้เขียนYulia Zeng
27 ส.ค. 2025 เวลา 9:40
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลดลิซ่า คุก สมาชิกเฟด ออก พร้อมระบุพร้อมสู้คดีในเรื่องนี้
  • คุกจะยื่นฟ้องศาลเพื่อขอให้มีคำตัดสินว่ายังสามารถทำหน้าที่ในเฟดได้ ขณะที่สำนักงานเฟดยืนยันว่าการปลดต้องมีเหตุผลที่ชอบธรรม
  • หากการฟ้องร้องดำเนินการ อาจนำไปสู่การพิจารณาในชั้นศาลฎีกา ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าประธานาธิบดีสามารถปลดสมาชิกเฟดได้เฉพาะเมื่อมีเหตุผลอันสมควร

TradingKey - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่าเขาพร้อมที่จะต่อสู้ทางศาลกับลิซ่า คุก สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่เขาสั่งปลดเธอออกจากตำแหน่งโดยอ้างว่ามีการปลอมแปลงเอกสารในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ทรัมป์กล่าวในระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรีว่าเขาเตรียมตัวสำหรับคำตัดสินของศาลและไม่ได้กังวลเรื่องการฟ้องร้องจากคุก “แน่นอน เธอดูเหมือนจะได้กระทำสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ควรทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำผิดแบบนี้ เพราะเธอรับหน้าที่ดูแลเรื่องการจำนอง”

นอกจากนี้ เขายังพูดถึงความเป็นไปได้ในการโยกย้าย สตีเฟน มีแรน ประธานสภาที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจมายังกระทรวงธนาคารกลางแทนอาเดรียนา คูเกลอร์ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว CNBC รายงานว่า พลเอกของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับกรณีนี้คือ หมายถึงประธานาธิบดีไม่สามารถดำเนินการตามคำร้องขอต่างๆ โดยไม่ใช้เหตุผลที่ชอบธรรม และ Lisa Cook กำลังเตรียมที่จะยื่นฟ้องเรียกร้องสิทธิของเธอต่อศาลในอนาคตที่จะยังสามารถทำงานในตำแหน่งต่อไป

“ทรัมป์ไม่มีอำนาจในการสั่งปลด”ทนายความของคุกกล่าว "เราจะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อปฏิเสธความพยายามนี้" ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวก็ยืนยันว่า ทรัมป์ได้ใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อดำเนินการดังกล่าว

หากข้อพิพาทนี้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ก็มีโอกาสสูงที่จะนำไปสู่ชั้นศาลฎีกา โดยตาม พ.ร.บ. ธนาคารกลางปี 1913 จำกัดให้ประธานาธิบดีสามารถปลดสมาชิกคณะกรรมการได้เพียงเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมนั่นหมายถึง การกระทำหรือละเลยต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

ทั้งนี้ คุกยังกล่าวอีกด้วยว่าจะไม่ลาออกและจะยังกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป เช่นเดียวกับที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2022

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI