tradingkey.logo

กอบศักดิ์ ชี้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังหดตัว ปมภาษีสหรัฐฯ และความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา

TradingKey
ผู้เขียนYulia Zeng
30 ก.ค. 2025 เวลา 16:40
  • นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ชี้ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัว เนื่องจากปัญหาภาษีสหรัฐฯ และความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
  • หากไทยถูกเก็บภาษี 36% จะส่งผลกระทบหนักต่อการส่งออก และสามารถทำให้นักลงทุนพิจารณาทบทวนการลงทุนใหม่
  • นายกอบศักดิ์เรียกร้องให้ประเทศไทยรักษาความเป็นกลางในสนามเศรษฐกิจโลกระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

TradingKey - นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่และเลขานุการของธนาคารกรุงเทพ ได้กล่าวในงานโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ (พศส.) ปี 68 ว่าภายในครึ่งปีหลังนี้ เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างแน่นอน สาเหตุหลักมาจากปัญหาเกี่ยวกับภาษีที่ยังไม่ชัดเจนของสหรัฐฯ รวมถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

สำหรับเรื่องภาษีทรัมป์ ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังติดตามสถานการณ์ด้วยความใกล้ชิด โดยมีเวลาอีกเพียง 6 วันในการเจรจาข้อตกลง หากไม่สำเร็จ ประเทศไทยอาจถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในระดับสูงถึง 36% ซึ่งนายกอบศักดิ์ เชื่อว่าอัตราดังกล่าวอยู่ในระดับที่ทำให้ภาคเอกชนไม่สามารถแบกรับได้ โดยชี้ว่าอัตราที่พอสบายใจอยู่ที่ 25%

“หากประเทศไทยโดนจัดเก็บภาษีที่สูงขนาดนี้ ผลกระทบจะหนักหน่วงโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการส่งออก ที่เรา依赖อยู่มากถึง 60% ส่งผลให้ไม่มีรายได้ในอนาคต รวมไปถึงจะกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค”

แม้ว่าปัจจุบันคำขอส่งเสริมการลงทุนช่วงครึ่งปีแรกจากบริษัทต่างๆ จะมากกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่ก็ยังไม่มีข้อกำหนดลงทุนเนื่องจากต้องคอยดูผลของเจรจาภาษีพร้อมกัน นอกจากนี้ นายกอบศักดิ์ ยังเน้นว่าการเลือกฝั่งระหว่างสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ กับจีน จะขึ้นเรื่อยๆ และประเทศจะต้องเตรียมตัวคู่แข่งกับสถานการณ์ทั้งในระดับภูมิใจและนักลงทุน

เขายังได้เตือนว่าหากเข้าไปอยู่ข้างหนึ่ง อาจกระทบต่อโอกาสในการค้าขาย ดังนั้น การรักษาความเป็นกลางถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย รวมทั้งทำให้ประเทศมีบทบาทสำคัญบนเวทีเชิงสร้างสรรค์

สุดท้าย นายกอบศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ต้องหารือร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทซึ่งแข็งค่าที่สุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อยู่บริเวณระดับ32 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่มีเสียงวิตกว่า ราคาสินทรัพย์ต่างๆ อาจ ก่อให้เกิดแรงดึงดูดให้นักลงทุนออกไปจากตลาดเงินดอลลาร์เข้าสู่ทองคำหรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI