ดอลลาร์ยังคงร่วงลง; ปอนด์แข็งค่าหลังเงินเฟ้อพุ่ง

Investing.com — ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอีกในวันพุธ ยังคงปรับตัวลดลงจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ปอนด์พุ่งขึ้นหลังรายงานเงินเฟ้อที่ร้อนแรง

ณ เวลา 19:30 น. ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่นๆ หกสกุล ลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 99.595 ขยายการลดลงในสองวันที่ 1.3%

จับตาร่างกฎหมายภาษีสหรัฐและการประชุม G7

ร่างกฎหมายลดภาษีและการใช้จ่ายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือนจะเผชิญกับการคัดค้านจากนักการเมืองหลายคน และกําลังเผชิญการทดสอบที่สําคัญในวันพุธ ขณะที่พรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐพยายามเอาชนะความแตกแยกภายใน

ร่างกฎหมายนี้ หากได้รับการอนุมัติ อาจเพิ่มหนี้ของประเทศขึ้น 3 ถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และเกิดขึ้นหลังจาก Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงหนึ่งขั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากหนี้ประเทศที่เพิ่มขึ้น

หนี้การคลังที่พุ่งสูง ความตึงเครียดทางการค้า และความเชื่อมั่นที่อ่อนแอได้ฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงประมาณ 8% ในปีนี้

นักเทรดยังระมัดระวังการถือครองดอลลาร์ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ที่กําลังดําเนินอยู่ในแคนาดา ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดี

"มีความเป็นไปได้ต่ําแต่ผลกระทบสูงที่จะมีข้อเสนอแนะว่าคํามั่นสัญญาของ G7 ที่มีมายาวนานในการปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวอย่างเสรีอาจได้รับการแก้ไขเพื่อให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง" นักวิเคราะห์ที่ ING กล่าวในบันทึก

"หากการคาดการณ์ในปัจจุบันเป็นจริง - และสหรัฐกําลังผลักดันให้สกุลเงินของคู่ค้าแข็งค่าขึ้น - มันอาจไม่เพียงกระตุ้นให้สกุลเงินเหล่านั้นแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังกดดันดอลลาร์ในวงกว้างอีกด้วย"

ปอนด์แข็งค่าหลังเงินเฟ้อพุ่ง

ในยุโรป GBP/USD เพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 1.3419 โดยปอนด์พุ่งขึ้นหลังจากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อของอังกฤษเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน

อัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภครายปีพุ่งขึ้นเป็น 3.5% ในเดือนเมษายนจาก 2.6% ในเดือนมีนาคม สํานักงานสถิติแห่งชาติกล่าว ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 และเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตรามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 เมื่อเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม "การดูข้อมูลอย่างใกล้ชิดแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของภาษีถนน ซึ่งมีผลกระทบอย่างมาก รวมถึงค่าโดยสารเครื่องบินและราคาแพ็คเกจวันหยุดที่สูงขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างได้รับผลกระทบจากช่วงเวลาของวันอีสเตอร์และวันที่วัดเฉพาะในเดือนเมษายน" ING กล่าว

"ในขณะที่ความคาดหวังสําหรับการคงอัตราในเดือนมิถุนายนแทบจะแน่นอนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอที่จะปฏิเสธการลดอัตราในเดือนสิงหาคม"

EUR/USD ซื้อขายสูงขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 1.1324 โดยยูโรได้รับประโยชน์จากนักเทรดที่มองหาทางเลือกสําหรับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

ยูโรแข็งค่าขึ้นแม้ว่าการสนทนาระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูติน จะไม่มีความคืบหน้าในการยุติสงครามในยูเครน

"ระดับสําคัญถัดไปคือ 1.150 แต่ตลาดอาจต้องการสนับสนุนระดับดังกล่าวด้วยข้อมูลสหรัฐที่อ่อนแอลงและอาจเป็นเรื่องราวที่มองโลกในแง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับรัสเซีย-ยูเครน ในตอนนี้ ดูเหมือนจะเร็วเกินไป และเราชอบ 1.130 เป็นเป้าหมายระยะสั้น" ING กล่าว

เยนแข็งค่าหลังข้อมูลการค้า

ในเอเชีย USD/JPY ซื้อขายลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 144.08 หลังจากข้อมูลเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าดุลการค้าของญี่ปุ่นหดตัวอย่างไม่คาดคิดในเดือนเมษายน เนื่องจากภาษีสหรัฐที่สูงขึ้นและเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้การเติบโตของการส่งออกชะลอตัว ในขณะที่การนําเข้าทรงตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย

USD/CNY ซื้อขายลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 7.2083 โดยหยวนได้รับประโยชน์จากดอลลาร์ที่อ่อนค่า

กระทรวงพาณิชย์จีนวิพากษ์วิจารณ์มาตรการจํากัดชิปจีนใหม่ของสหรัฐเมื่อวันพุธ โดยเฉพาะการคัดค้านความพยายามที่จะห้ามชิป Huawei ทั่วโลก ปักกิ่งเตือนเมื่อเร็วๆ นี้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อการหยุดยิงทางการค้า 90 วัน

AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 0.6442 หลังจากลดลงในเซสชั่นก่อนหน้านี้เมื่อธนาคารกลางออสเตรเลียลดอัตราดอกเบี้ย 25 เบสิสพอยต์เมื่อวันอังคาร

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน