5 การเคลื่อนไหวด้าน AI ครั้งใหญ่จากนักวิเคราะห์: Apple ถูกปรับลด Nvidia ได้รับคำแนะนำให้ขาย TSMC เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง

Investing.com — นี่คือการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดของนักวิเคราะห์ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สําหรับสัปดาห์นี้

ผู้สมัครสมาชิก InvestingPro จะได้รับความเห็นจากนักวิเคราะห์ด้าน AI ที่ส่งผลต่อตลาดก่อนใคร อัปเกรดวันนี้!

Rosenblatt ปรับลด Apple เนื่องจากขาดการเร่งยอดขาย iPhone ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Rosenblatt Securities ปรับลดคําแนะนํา Apple (NASDAQ:AAPL) เป็นการคงสัดส่วนการลงทุนจากซื้อ และลดราคาเป้าหมายเป็น $217 จาก $263 เนื่องจากไม่มีการเพิ่มขึ้นของยอดขาย iPhone ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

"ไตรมาส F2Q25 ที่เพิ่งรายงานชี้ให้เห็นถึงบริษัทที่มีทักษะห่วงโซ่อุปทานที่น่าทึ่ง และมีความต้องการ iPhone ที่ดีกว่าที่หลายคนกังวล อย่างไรก็ตาม สําหรับหุ้นนี้จะทํางานได้ดีจริงๆ จําเป็นต้องมีการเร่งตัวอย่างรวดเร็วในยอดขาย iPhone ที่ขับเคลื่อนด้วย AI" นักวิเคราะห์ Barton Crockett เขียน

"และเมื่อเวลาผ่านไป ข้อโต้แย้งสําหรับเรื่องนั้นดูเหมือนจะจางหายไป" เขากล่าวเสริม

Apple รายงานรายได้ไตรมาสที่สองของปีงบประมาณที่ 95.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ 7.6% ในสกุลเงินคงที่ ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการก่อนสงครามการค้าและอยู่ในระดับสูงสุดของคําแนะนําของบริษัท ยอดขาย iPhone เพิ่มขึ้น 2% เกินการคาดการณ์ของ Rosenblatt 200 เบสิสพอยต์ ในขณะที่รายได้จากบริการเพิ่มขึ้น 12%—14% ในสกุลเงินคงที่

สําหรับไตรมาสมิถุนายน Apple แนะนําการเติบโตของรายได้ในระดับต่ําถึงกลางเป็นตัวเลขเดียว และอัตรากําไรขั้นต้นอยู่ในช่วง 45.5% ถึง 46.5%

Rosenblatt สังเกตการเปลี่ยนแปลงการผลิตอย่างต่อเนื่องของ Apple โดยการประกอบ iPhone ส่วนใหญ่สําหรับตลาดสหรัฐฯ ย้ายไปยังอินเดีย และการผลิต iPad, Mac, Watch และ AirPods เกือบทั้งหมดกําลังเปลี่ยนไปยังเวียดนาม จีนยังคงเป็นฐานการผลิตที่มุ่งเป้าไปยังภูมิภาคอื่นๆ

การปรับลดสะท้อนถึงการตัดสินใจของ Rosenblatt ที่จะนําซูเปอร์ไซเคิลการเปลี่ยนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เคยสมมติไว้ก่อนหน้านี้ออกจากการคาดการณ์ เป้าหมายใหม่ที่ $217 อิงจากอัตราส่วน 27 เท่าของกําไรที่คาดการณ์ในปี 2026 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10%

หุ้น Nvidia ได้รับคําแนะนําให้ขายที่หายากใน Wall Street

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Seaport Research Partners เริ่มให้คําแนะนํา Nvidia (NASDAQ:NVDA) ด้วยคําแนะนําให้ขายที่หายาก และราคาเป้าหมาย $100 โดยอ้างถึงการประเมินมูลค่าที่ยืดเยื้อและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่เกี่ยวข้องกับโมเมนตัม AI และพฤติกรรมของลูกค้า

"Nvidia เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์หลักจากการใช้จ่ายด้าน AI ในปัจจุบัน แต่แนวโน้มของบริษัทเป็นที่เข้าใจดีและส่วนใหญ่ถูกรวมไว้ในราคาหุ้นแล้ว" โบรกเกอร์เขียน ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตที่จํากัดจากระดับปัจจุบัน

แม้จะมีความต้องการชิป Blackwell รุ่นใหม่ที่แข็งแกร่ง—ซึ่งขายหมดแล้วสําหรับปีนี้—Seaport เห็นความเสี่ยงด้านลบที่เพิ่มขึ้น บริษัทชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการใช้งานระบบของ Nvidia รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับ "การระบายความร้อน การกําหนดค่า และการจัดการ" และเตือนถึงผลตอบแทนจากการลงทุนด้าน AI ที่ "คลุมเครือ"

"การวิจัยของเราชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนที่สําคัญที่จําเป็นสําหรับการใช้งานระบบ Nvidia" นักวิเคราะห์กล่าว พวกเขาเสริมว่าลูกค้าองค์กรยังคง "ค้นหากรณีการใช้งานและวิธีสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนด้าน AI ที่สําคัญจนถึงปัจจุบัน"

Seaport ยังชี้ให้เห็นถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าของ Nvidia เอง "โมเมนตัมที่แข็งแกร่งเบื้องหลังทางเลือกภายในของไฮเปอร์สเกลเลอร์ต่อ Nvidia – ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Nvidia ทั้งหมดกําลังมองหาการออกแบบชิปของตัวเอง" บันทึกระบุ

ในขณะที่โบรกเกอร์ไม่ได้เรียก AI ว่าเป็นฟองสบู่ แต่คาดว่าจะเกิดอุปสรรค "มีแนวโน้มที่จะเห็นการชะลอตัวของงบประมาณ AI ในปี 2026" Seaport กล่าว โดยสังเกตว่าแม้ว่า "AI อาจทําได้ดีในปีนี้ แต่ NVDA มีแนวโน้มที่จะมีผลงานต่ํากว่าเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน"

Morgan Stanley คืนสิทธิ TSMC เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง

Morgan Stanley ได้คืนสิทธิ Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE:TSM) เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง โดยชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นที่ขับเคลื่อนโดยการเร่งค่าใช้จ่ายด้าน AI และความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับปัญหาสําคัญ

"ด้วยคําแนะนําค่าใช้จ่ายด้าน AI ที่แข็งแกร่งจาก Meta (NASDAQ:META) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) เราย้าย TSMC กลับมาเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของเรา" นักวิเคราะห์เขียน

ธนาคารก่อนหน้านี้ได้ชะลอเนื่องจากความเสี่ยงหลักสามประการ: ความไม่แน่นอนของความต้องการ AI, การร่วมทุนที่อาจเกิดขึ้นกับ Intel (NASDAQ:INTC) และการตัดสินใจเกี่ยวกับภาษีที่กําลังจะมาถึง ความกังวลเหล่านั้นดูเหมือนจะบรรเทาลงแล้ว

"การตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานล่าสุดของเราแนะนําว่าความต้องการ CoWoS-L ที่ TSMC ไม่เปลี่ยนแปลง" นักวิเคราะห์กล่าว โดยผลักดันความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความต้องการที่อ่อนตัวลงสําหรับเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงของผู้ผลิตชิป

การตัดสินใจของ Meta ที่จะยกระดับมุมมองค่าใช้จ่ายในปี 2025 ขึ้น 7 พันล้านดอลลาร์ และการเคลื่อนไหวของ Microsoft ไปสู่การใช้จ่าย "ชุดเซิร์ฟเวอร์ที่มีระยะเวลาสั้นลง" ถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ผลกระทบของ Intel ดูเหมือนจะมีข้อจํากัดมากขึ้น "N2 ของ TSMC ควรถูกใช้ในการผลิตทั้งไทล์ CPU และ GPU แต่จะถูกแบ่งปันกับ Intel 18A" บันทึกระบุ โดยเพิ่มเติมว่า "ผู้บริหาร TSMC ได้ตัดความเป็นไปได้ของการร่วมทุนออกไป"

เกี่ยวกับภาษี ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ก่อนการตัดสินใจในวันที่ 7 พฤษภาคม แม้ว่าไม่มีความเสี่ยงใหม่เกิดขึ้น ตาม Morgan Stanley

"TSMC เป็นหุ้น OW [เพิ่มน้ําหนักการลงทุน] ที่น่าสนใจมากกว่า" ทีม Morgan Stanley เขียน โดยเน้นประมาณการอัตราส่วนราคาต่อกําไร (P/E) ปี 2025 ที่ 15.5 เท่า "เราคาดหวังการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในหุ้นเมื่อปัญหาเหล่านี้ถูกกําจัดออกไป" นักวิเคราะห์กล่าวเพิ่มเติม

JPMorgan ยกระดับ Western Digital เป็นเพิ่มน้ําหนักการลงทุน

ในขณะเดียวกัน JPMorgan ได้ปรับระดับหุ้น Western Digital (NASDAQ:WDC) เป็นเพิ่มน้ําหนักการลงทุนจาก Not Rated และกําหนดราคาเป้าหมายเดือนธันวาคม 2025 ที่ $57 โดยอ้างถึงกําไรที่แข็งแกร่ง ความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ยืดหยุ่น และการมองเห็นที่ดีขึ้นจากข้อตกลงระยะยาว

"หลังจากการแยกธุรกิจ NAND flash ที่ประสบความสําเร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้ WDC เป็นผู้ให้บริการ HDD แบบ pure-play" นักวิเคราะห์เขียน ชี้ให้เห็นถึงการมุ่งเน้นที่คมชัดขึ้นของบริษัทในโซลูชันฮาร์ดไดรฟ์ขั้นสูงสําหรับตลาดคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์

ผลประกอบการไตรมาสมีนาคมเกินความคาดหมาย และ Western Digital แนะนํารายได้ไตรมาสมิถุนายนที่ 2.45 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าฉันทามติที่ 2.36 พันล้านดอลลาร์ ธนาคารระบุว่าความแข็งแกร่งนี้มาจากความต้องการที่ยั่งยืนจากลูกค้าไฮเปอร์สเกลและคลาวด์

JPMorgan ยังชี้ให้เห็นถึง "LTA จากลูกค้าไฮเปอร์สเกลรายใหญ่ที่ขยายไปจนถึงครึ่งแรกของ CY26" ซึ่งช่วยให้มั่นใจในการมองเห็นรายได้

บริษัทยังคงเพิ่มการผลิต HDD ความจุสูง โดยจัดส่งมากกว่า 800,000 หน่วยของไดรฟ์ 26TB และ 32TB ในไตรมาสมีนาคม และกําลังอยู่ในเส้นทางที่จะเกิน 1 ล้านในไตรมาสมิถุนายน—"หนึ่งไตรมาสก่อนแผน"

ความคืบหน้ายังเกิดขึ้นในไดรฟ์ HAMR รุ่นถัดไป ซึ่งคาดว่าจะถึงการผลิตจํานวนมากในครึ่งแรกของปี 2027

คําแนะนําอัตรากําไรขั้นต้นที่ 40.5% สําหรับไตรมาสมิถุนายนสะท้อนถึง "อํานาจการกําหนดราคาที่แข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมอุปทานที่ตึงตัว" และ JPMorgan เห็นว่ามีพื้นที่สําหรับการขยายตัวของอัตรากําไรเพิ่มเติมเมื่อความต้องการคลาวด์เติบโตขึ้น

Western Digital ยังได้ดําเนินการเพื่อเสริมสร้างงบดุล รวมถึงการไถ่ถอนหุ้นกู้อาวุโสปี 2026 มูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ และการเปิดตัวเงินปันผลรายไตรมาสที่ $0.10

Truist Securities ยกระดับ ServiceNow เป็นซื้อเนื่องจากตําแหน่งผู้นําด้าน AI

ServiceNow (NYSE:NOW) ยังได้รับการปรับระดับเป็นซื้อจากการคงสัดส่วนการลงทุนที่ Truist Securities ซึ่งยังได้เพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นเป็น $1,200 จาก $950

การแก้ไขนี้เกิดขึ้นเนื่องจากบทบาทที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในการรวม IT ขององค์กรและตําแหน่งที่แข็งแกร่งใน AI เป้าหมายใหม่บ่งชี้ถึงศักยภาพการเติบโตมากกว่า 25% จากราคาปิดก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์ของ Truist มอง ServiceNow ว่าเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากความไม่แน่นอนของมหภาคและการนํา AI มาใช้ โดยสังเกตถึงความสามารถในการส่งมอบ "ผลกําไรที่ทบต้นในทุกส่วนของการดําเนินงาน" ผ่านสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มของบริษัท

"นอกจากนี้ เมื่อเทคโนโลยีใหม่ออกสู่ตลาด ผู้ขายที่มีอยู่เดิมมักจะได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ IT" นักวิเคราะห์นําโดย Joel P. Fishbein Jr. เขียน

พวกเขาเน้นย้ําถึงการขยายตัวของ ServiceNow ในพื้นที่ที่มีอยู่แล้วเช่น CRM และพื้นที่ที่กําลังเกิดขึ้นใหม่เช่น agentic AI ว่าเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน "เราเห็นว่าประวัติการดําเนินการด้านการตลาด (GTM) ของพวกเขาเป็นมาตรฐานทองคําในการครอบคลุมของเรา" พวกเขากล่าวเสริม

Truist เน้นย้ําถึงความเป็นผู้นําของบริษัทใน AI โดยชี้ให้เห็นถึงข้อมูลจากอุตสาหกรรมที่แนะนําว่ามีความต้องการเครื่องมือสําเร็จรูปเพิ่มขึ้นมากกว่าโซลูชันที่กําหนดเอง แรงดึงดูดของ ServiceNow กับ SKU Pro Plus ถูกมองว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโมเมนตัมนั้น

นักวิเคราะห์ยังสังเกตถึงความสําคัญเชิงกลยุทธ์ของ ServiceNow ภายในองค์กร IT และความเกี่ยวข้องที่เพิ่มขึ้นสําหรับพนักงานที่ใช้ความรู้เป็นปัจจัยที่สนับสนุนการสร้าง AI ของบริษัท

ในส่วนของรัฐบาลกลาง Truist ประมาณการว่าธุรกิจคิดเป็นประมาณ 9% ของมูลค่าสัญญาประจําปี

แม้จะยอมรับการประเมินมูลค่าพรีเมียมของหุ้น—ซื้อขายที่ 15 เท่าของรายได้ FY25—โบรกเกอร์มองว่ามีความเหมาะสม

ServiceNow ถูกมองว่าเป็น "ตัวทบต้นระดับยุค" ที่มีการเติบโตของรายได้ในระดับสิบเปอร์เซ็นต์สูงที่คาดการณ์ในช่วงห้าปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุผลสําหรับการมีผลงานที่ดีกว่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับบริษัทซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน