การจัดตำแหน่งของนักลงทุนเริ่มมีเสถียรภาพท่ามกลางภัยคุกคามภาษีที่ลดลงและผลกำไรที่แข็งแกร่ง: Citi

Investing.com — การลดระดับการพูดถึงภาษีนําเข้าในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่ง ได้ผลักดันให้เกิดการฟื้นตัวในการจัดตําแหน่งการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทําให้การเปิดรับความเสี่ยงในดัชนีหลักต่างๆ ใกล้เคียงกับระดับที่เป็นกลาง ตามรายงานของนักกลยุทธ์จาก Citigroup (NYSE:C) นําโดย Chris Montagu

แม้ว่าความรู้สึกที่ดีขึ้นได้สนับสนุนกระแสเงินในตลาด แต่ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่เกี่ยวกับผลลัพธ์สุดท้ายของนโยบายภาษี ทั้งในแง่ของเวลาและระดับสุดท้าย นักกลยุทธ์กล่าวว่าความไม่แน่นอนนี้มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นจุดสนใจหลักสําหรับนักลงทุนในระยะใกล้

"นอกจากนี้ เมื่อเราเข้าสู่สัปดาห์ที่สําคัญที่สุดในฤดูกาลรายงานผลประกอบการของสหรัฐฯ ที่น่าจูงใจ ประเด็นที่พบเห็นอย่างสม่ําเสมอในข้อความของบริษัทคือความปั่นป่วนที่เกิดจากการประกาศภาษีนําเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบต่อการเติบโตและกําไรในอนาคต" พวกเขาเขียน

ตามรายงานของธนาคาร กระแสเงินทุนกลับเป็นบวกในทุกดัชนีหลักของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่แล้ว นําโดย Russell 2000 และ Nasdaq ซึ่งทั้งคู่ได้รับประโยชน์จากการปิดสถานะขายและการเปิดสถานะซื้อใหม่ การจัดตําแหน่งใน S&P 500 มีการเคลื่อนไหวน้อยกว่าและยังคงมีเสถียรภาพโดยรวม

กิจกรรมโดยรวมมีน้อยลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนบางรายเลือกที่จะรอความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าก่อนที่จะดําเนินการต่อไป

นักกลยุทธ์ชี้ให้เห็นว่าการขาดทุนจากการขายใน S&P 500 ตอนนี้เกินกว่าการขาดทุนจากฝั่งซื้อ ซึ่งเปลี่ยนพลวัตความเสี่ยงกลับไปสู่สถานะขาย สถานะขายยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอยู่ในเปอร์เซ็นไทล์ที่ 92 เมื่อเทียบกับสามปีที่ผ่านมา พวกเขากล่าวว่าสถานการณ์นี้อาจเพิ่มความผันผวนหากตลาดยังคงฟื้นตัวและกระตุ้นให้เกิดการปิดสถานะขายเพิ่มเติม

แนวโน้มการจัดตําแหน่งในยุโรปสะท้อนให้เห็นถึงสหรัฐฯ โดยความรู้สึกเชิงบวกเพิ่มขึ้นในดัชนีชี้วัดหลัก ธนาคารในยุโรปโดยเฉพาะมีการจัดตําแหน่งเกินกว่าระดับก่อนมีการประกาศภาษี อย่างไรก็ตาม การจัดตําแหน่งโดยรวมใน DAX และ FTSE 100 มีความระมัดระวังมากกว่า

ในเอเชีย Hang Seng และ China A50 ดึงดูดกระแสเงินทุนเชิงบวกอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันความรู้สึกในทั้งสองดัชนีกลับเข้าสู่เขตที่มองโลกในแง่ดี

ดัชนีชี้วัดส่วนใหญ่ในเอเชียอื่นๆ มีรูปแบบคล้ายกัน แม้ว่า Nikkei จะเป็นข้อยกเว้น—แม้จะมีการเพิ่มขึ้นในดัชนี แต่กิจกรรมการจัดตําแหน่งมีความผสมผสานและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน