5 การเคลื่อนไหวใหญ่ของนักวิเคราะห์ด้าน AI: หุ้นชิปเสี่ยงจากภาษี; ASML ถูกปรับลด

Investing.com — นี่คือการเคลื่อนไหวที่สําคัญที่สุดของนักวิเคราะห์ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สําหรับสัปดาห์นี้

สมาชิก InvestingPro จะได้รับข้อมูลความเห็นของนักวิเคราะห์ด้าน AI ที่ส่งผลต่อตลาดก่อนใคร อัปเกรดวันนี้!

ภาษีอาจ "ทําลาย Apple" นักวิเคราะห์กล่าว

Rosenblatt เตือนว่าการประกาศภาษีใหม่โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลร้ายแรงต่อ Apple Inc (NASDAQ:AAPL) โดยนักวิเคราะห์ บาร์ตัน ครอกเกตต์ ระบุว่าการเคลื่อนไหวนี้ "อาจทําลาย Apple"

บริษัทประเมินว่า Apple อาจเผชิญกับต้นทุนภาษีประมาณ 39.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เนื่องจากการพึ่งพาการผลิตในจีนและเวียดนาม

เกือบทั้งหมดของ iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ รวมถึงส่วนสําคัญของ Mac, iPad, Apple Watch และ AirPod ผลิตในจีน ทําให้บริษัทมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ

หาก Apple เลือกที่จะรับผลกระทบทั้งหมด ครอกเกตต์ประเมินว่าจะส่งผลให้กําไรจากการดําเนินงานและกําไรต่อหุ้นลดลง 32% เมื่อคิดเป็นรายปี การผลักภาระต้นทุนเหล่านี้ไปยังผู้บริโภคอาจเป็นไปไม่ได้

"Apple อาจต้องการขึ้นราคาเพื่อชดเชยผลกระทบนี้ แต่เราประเมินว่าจําเป็นต้องขึ้นราคาอุปกรณ์ประมาณ 40% เพื่อชดเชยต้นทุนภาษีทั้งหมด ซึ่งอาจทําให้ความต้องการลดลง ดังนั้นเราไม่แน่ใจว่าคุ้มค่าหรือทําได้จริงหรือไม่" เขากล่าว

สภาพการแข่งขันอาจเปลี่ยนไป โดย Samsung อาจได้เปรียบ แม้จะเผชิญกับภาษี 25% สําหรับสินค้านําเข้าจากเกาหลีใต้ แต่ Samsung ผลิตอุปกรณ์ในจีนน้อยกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้ได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากปักกิ่ง ครอกเกตต์ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงเช่นการต่อต้านจากผู้บริโภคในจีนหรือนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้ผู้ผลิตในประเทศมากกว่า Apple

การย้ายการผลิต iPhone ไปยังสหรัฐฯ จะเป็นเรื่องยากที่จะดําเนินการในระยะสั้น ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงในระดับใหญ่ "ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า"

ครอกเกตต์ยอมรับว่าบริษัทคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า Apple จะได้รับการยกเว้นเนื่องจากสถานะความเป็นไอคอนระดับชาติ "สิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นได้ แต่ทฤษฎีและการประเมินของเราอยู่ในความเสี่ยงอย่างชัดเจน" เขาเตือน

การเติบโตของรายได้ Amazon จะ 'เน้นหนักในช่วงปลาย': Mizuho

Mizuho คาดว่า Amazon Web Services (AWS) จะมีการเติบโตของรายได้ "เน้นหนักในช่วงปลาย" ในปี 2025 เนื่องจากสัญญาณระยะสั้นชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอบางส่วนในแรงขับเคลื่อนด้านยอดขายและแรงกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น

แม้จะเป็นเช่นนี้ โบรกเกอร์ระบุว่างบประมาณทั้งปีของ AWS ยังคงตั้งเป้าการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ในการสํารวจลูกค้าล่าสุด Mizuho พบว่า "วงจรการขายชะลอตัวเล็กน้อย" โดยเฉพาะในบริการทางการเงิน แม้ว่าการชะลอตัวจะไม่รุนแรงเท่ากับในปี 2022 เมื่อ "ระยะเวลานําในการปิดดีลช้าลง 50%" ครั้งนี้ การชะลอตัวดูเหมือนจะเกิดจากความรู้สึกมากกว่าผลจากการเสื่อมสภาพทางเศรษฐกิจ

เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับบริการ AI, AWS ได้แนะนําแรงจูงใจใหม่ รวมถึง "ส่วนลดราคาเพิ่มเติม 10% ถึง 20% สําหรับการอนุมาน AI" ที่เสนอให้กับลูกค้าระยะยาว

อย่างไรก็ตาม Mizuho ชี้ให้เห็นถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก Google (NASDAQ:GOOGL) Cloud Platform (GCP) ซึ่งได้ลดราคาต่ํากว่าคู่แข่งเพื่อให้ได้ข้อตกลงระยะยาว "GCP ดูเหมือนจะอยู่ในตําแหน่งที่จะชนะสัญญาใหม่" ด้วยข้อเสนอ "ส่วนลดสูงถึง 30% สําหรับลูกค้าที่ลงนามในข้อตกลงระยะยาว" ตามบันทึก

ด้วยเหตุนี้ Mizuho คาดว่าการเติบโตของ AWS ในไตรมาสแรกของปี 2025 จะ "เป็นไปตามหรือต่ํากว่าฉันทามติเล็กน้อย" โดยมีการเปรียบเทียบปีต่อปีที่ยากขึ้นส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ในช่วงต้นปี

"รูปแบบของการเร่งรายได้น่าจะเน้นหนักในช่วงปลาย" เพิ่มเติม

Mizuho คงคําแนะนํา Outperform สําหรับ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) และราคาเป้าหมาย 285 ดอลลาร์ โดยมองว่าความอ่อนแอในปัจจุบันเป็น "ปัญหาเรื่องจังหวะเวลา" มากกว่าการสะท้อนถึงพื้นฐานที่อ่อนแอลง

ในขณะที่ "กิจกรรมการแข่งขันที่สูง" ยังคงเป็นอุปสรรค บริษัทเห็นโอกาสในระยะยาวในพื้นที่เช่นธนาคารภูมิภาค ซึ่งประมาณการว่ามีการย้ายไปยังคลาวด์มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ในอีกห้าปีข้างหน้า

ASML (AS:ASML) ถูกปรับลดที่ Mizuho เนื่องจาก "แนวโน้มธุรกิจปี 2026"

Mizuho ปรับลด ASML (NASDAQ:ASML) เป็น ถือหุ้นไว้ จาก ซื้อ โดยอ้างถึง "ความเสี่ยงด้านลบต่อแนวโน้มธุรกิจปี 2026" และลดราคาเป้าหมายเป็น 650 ยูโรจาก 810 ยูโร

บริษัทการลงทุนระบุว่าการกระจุกตัวของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE:TSM) อาจเพิ่มความผันผวน และเตือนถึงการดึงการจัดส่ง EUV สําหรับ TSMC ในปี 2025 ที่อาจส่งผลให้การจัดส่งลดลงในปี 2026

"เราคาดการณ์ว่ายอดขายของ ASML จะลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ EPS จะคงที่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในปี 2026" Mizuho กล่าว บริษัทคาดการณ์ว่าการจัดส่ง EUV ทั้งหมดจะลดลงเหลือ 49 หน่วยในปี 2026 จาก 53 หน่วยในปี 2025

นอกจากนี้ยังระบุว่า "การจัดส่ง EUV ของ TSMC อาจลดลงเหลือ 15 หน่วยในปี 2026 จาก 18 หน่วยในปี 2025" แม้จะมีกําลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นที่ผู้ผลิตตามสัญญาของไต้หวัน

Mizuho คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นที่จํากัดจาก Samsung (KS:005930) และ Intel (NASDAQ:INTC) ในปี 2026 แต่เห็นว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ของ ASML จะถึงระดับสูงสุดของคําแนะนํา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการในจีน

ในขณะที่บริษัทยังคงเห็นการลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในยอดขายจีนในปี 2025 แต่ได้ปรับการคาดการณ์เป็นการลดลง 35% จากเดิม 45%

Bernstein ชี้ความไม่แน่นอน ความเสี่ยงด้านลบสําหรับหุ้นชิปหลังภาษีใหม่

Bernstein ชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นและความเสี่ยงด้านลบสําหรับหุ้นเซมิคอนดักเตอร์หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยแผนภาษีใหม่ แม้ว่าตัวชิปจะยังคงได้รับการยกเว้นในตอนนี้ แต่โบรกเกอร์เตือนว่าผลกระทบทางอ้อมอาจมีนัยสําคัญ

นักวิเคราะห์ของ Bernstein กล่าวว่าภาษีพื้นฐาน 10% เริ่มต้นนั้น "ดีกว่าที่คาด" แต่ความรู้สึกของตลาดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อมาตรการตอบโต้ดูเหมือนจะ "แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้มาก"

เซมิคอนดักเตอร์อาจได้รับการยกเว้นโดยตรง แต่ผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ต้องพึ่งพาพวกมัน เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน อาจเผชิญกับภาษีเกือบ 40% ตามนักวิเคราะห์

ในบางกรณี ภาษีรวมอาจเกิน 50% บันทึกยังเน้นย้ําว่ารถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งพึ่งพาชิปอย่างมาก "จะเผชิญกับภาษี 25% ในหลายกรณี"

ตลาดตอบสนองอย่างรุนแรง โดย Bernstein สังเกตว่า "ตลาดหลังปิดของสหรัฐฯ ซื้อขายลดลง 300-400 bps เป็นผลมาจาก" และคาดว่าจะมีความผันผวนมากขึ้นเมื่อผลกระทบคลี่คลาย

ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดสําหรับภาคส่วนนี้ไม่ใช่ภาษีโดยตรงแต่เป็นผลกระทบต่อเนื่อง Bernstein เตือนถึง "ทางอ้อม เช่น การทําลายความต้องการ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ฯลฯ"

นักวิเคราะห์ยอมรับความยากลําบากในการประเมินผลกระทบทั้งหมดในขั้นตอนนี้ "เราคิดว่าเราจะต้องดูว่ามีอะไรออกมาจากทําเนียบขาวในอนาคต" พวกเขาเขียน

โดยรวมแล้ว มุมมองค่อนข้างหดหู่ "เราไม่เห็นความรู้สึกในเชิงบวกมากนักสําหรับกลุ่มเซมิ (หรือจริงๆ แล้วสําหรับสิ่งอื่นใด)" บริษัทสรุป

Rosenblatt ปรับ Coherent เป็นซื้อจากการคาดการณ์การเร่งตัวของทรานซีฟเวอร์ AI

นักวิเคราะห์ของ Rosenblatt ไมค์ เจโนวีส ปรับเพิ่ม Coherent (NYSE:COHR) เป็น ซื้อ จาก ถือหุ้นไว้ และตั้งราคาเป้าหมายใหม่ที่ 85 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วย AI และแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในตลาดทรานซีฟเวอร์

"เรากําลังปรับเพิ่ม Coherent จาก ถือหุ้นไว้ เป็น ซื้อ เพราะเรามีความเชื่อมั่นในการเร่งตัวต่อเนื่องของทรานซีฟเวอร์ AI ภายในครึ่งหลังของปี 2025 ที่ขับเคลื่อนโดยการเปิดตัว Blackwell และความต้องการทรานซีฟเวอร์ coherent/ZR สําหรับแอปพลิเคชัน DCI และ Telco ที่แข็งแกร่งมาก" เจโนวีสเขียนในบันทึก

นักวิเคราะห์แสดงความมั่นใจในแนวโน้มระยะยาวสําหรับตลาดทรานซีฟเวอร์

"เรามีความเชื่อมั่นในตลาดทรานซีฟเวอร์จนถึงปี 2030 และมองว่า CPO เป็นโอกาสมากกว่าภัยคุกคามเนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่เช่นเลเซอร์กําลังสูงพิเศษ (UHP) และสวิตช์วงจรออปติคัล (OCS)"

Rosenblatt เน้นความก้าวหน้าของ Coherent ในการทําให้ 200G VCSELs และ 100G และ 200G EMLs เป็นเชิงพาณิชย์ รวมถึงผลกระทบเชิงบวกของ CEO คนใหม่ Jim Anderson ธนาคารการลงทุนยังชี้ให้เห็นถึงวัน Analyst and Investor Day ที่กําลังจะมาถึงของบริษัทที่ NYSE ในวันที่ 28 พ.ค. ว่าเป็นตัวเร่งที่มีศักยภาพ

ในขณะที่หุ้นได้ถอยกลับมาต่ํากว่า 13 เท่าของกําไรล่วงหน้า ซึ่งเป็นการประเมินมูลค่าก่อน AI ตามประวัติ Rosenblatt ไม่ได้ปรับการประมาณการ เจโนวีสระบุว่า "ฝั่งซื้อเชื่อว่าตัวเลขจําเป็นต้องลดลงเนื่องจากการทําลายความต้องการจากภาษีใหม่ รวมถึง 24% สําหรับสินค้ามาเลเซีย"

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงมองบวกต่อแนวโน้มความต้องการ โดยอ้างอิงถึงสัญญาณที่น่าสนใจจากการประชุม Optical Fiber และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรูปแบบสุดท้ายของภาษี

"เราถือว่า Coherent เป็นผู้นําระยะยาวใน AI Optics และเรากําลังปรับเพิ่มหุ้นเป็น ซื้อ" เจโนวีสเขียน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน