Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งมีกำหนดประกาศในสัปดาห์นี้
ตลอดทั้งวัน นักลงทุนต่างประเมินแผนปฏิบัติการพิเศษของจีนที่ประกาศเพื่อกระตุ้นการบริโภค รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในวันนี้
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักที่ระดับ 103.71 ระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อเวลา 09:52 น. (GMT+7) โดยยังคงอยู่เหนือระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือนที่ไปถึงเมื่อต้นเดือนนี้เล็กน้อย
การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน
ในสัปดาห์นี้ หลายประเทศเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน มีกำหนดการณ์จะประกาศอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของตน
นักลงทุนจะต้องจับตาการประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันอังคาร โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่คำแถลงของเฟดเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรต่อเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ การประชุมของ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ในวันที่ 18–19 มีนาคม คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% แม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่กังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
คู่สกุลเงิน USD/JPY ของเงินเยนญี่ปุ่นแทบไม่เปลี่ยนแปลง
จีนจะประกาศ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ในวันพฤหัสบดี
คู่สกุลเงินหยวนจีนทั้งตลาดในประเทศ USD/CNY และตลาดนอกประเทศ USD/CNH ยังคงทรงตัวในวันนี้
ธนาคารกลางไต้หวันมีกำหนดการณ์จัดประชุมด้านนโยบายการเงินรายไตรมาสในวันพฤหัสบดี
คู่สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวัน USD/TWD ขยับขึ้น 0.1%
ขณะที่คู่สกุลเงินของออสเตรเลียดอลลาร์ AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนดอลลาร์สิงคโปร์ USD/SGD ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
เงินวอนเกาหลีใต้ USD/KRW ปรับตัวลง 0.3% ขณะที่เงินรูปีอินเดีย USD/INR ขยับขึ้น 0.1%
จีนประกาศแผนกระตุ้นการบริโภค จับตาภาคการผลิตและยอดค้าปลีกเดือนก.พ.
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนได้เปิดเผย "แผนปฏิบัติการพิเศษ" ที่ครอบคลุมเพื่อส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน
แผนดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มรายได้ของประชาชน ลดภาระทางการเงิน และปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการบริโภค โดยครอบคลุมทั้งภาคเศรษฐกิจดั้งเดิม เช่น อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงภาคเศรษฐกิจใหม่อย่างผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์
ขณะเดียวกัน ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในวันนี้ยังให้ภาพรวมที่หลากหลาย
ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ การผลิตภาคอุตสาหกรรม เติบโต 5.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงกว่าคาดการณ์ที่ 5.3%
ดัชนียอดค้าปลีก เพิ่มขึ้น 4.0% จากเดือนธันวาคมที่ขยายตัว 3.7% โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายช่วงตรุษจีน
อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานในเขตเมือง เพิ่มขึ้นเป็น 5.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองปี สะท้อนถึงความท้าทายของตลาดแรงงานที่ยังคงอยู่
พัฒนาการเหล่านี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของแผนปฏิบัติการของจีนในการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% ในปี 2025