Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวแบบทรงตัวถึงต่ำลงในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและมาตรการขึ้นภาษีการค้าของสหรัฐฯ
แต่เงินเยนของญี่ปุ่นถือเป็นข้อยกเว้น โดยแข็งค่าขึ้นแตะระดับที่แข็งที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากนักลงทุนหันมาถือเงินเยนเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นแสดงสัญญาณความแข็งแกร่ง และมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
เงินหยวนจีนแข็งค่าขึ้นในวันนี้ หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอทำให้ค่าเงินอ่อนลงอย่างมากในวันก่อนหน้า นักลงทุนยังคงต้องจับตาดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนต่อไป
โดยรวมแล้ว สกุลเงินในเอเชียยังคงเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง แต่ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกก็ได้ลดความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มนี้เช่นกัน
เงินเยนแข็งค่า USD/JPY ลงต่ำกว่า 147
เงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในตลาดเอเชีย โดยคู่เงิน USD/JPY ลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 147.13 เยน โดยก่อนหน้านี้เงินเยนได้แข็งค่าจน USD/JPY ลดลงไปต่ำกว่า 147 เยน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 เดือน
เงินเยนได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ข้อมูล GDP ของญี่ปุ่นที่มีการปรับปรุงใหม่นั้นแม้จะแสดงให้เห็นว่าอัตราการเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก แต่ก็ยังคงสะท้อนถึงการขยายตัวที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่สี่ของปี 2024
นอกจากนี้ สัญญาณเงินเฟ้อที่ยังคงสูง ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ อาจยังมีแรงจูงใจเพียงพอในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ขณะที่การชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนอาจได้รับการชดเชยจากการปรับขึ้นค่าแรงรอบใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD/USD อ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังจากการดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเริ่มชะลอตัว แม้ว่าข้อมูล ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ออสเตรเลียจะปรับตัวดีขึ้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะหนุนค่าเงิน
ทางด้านเงินหยวน USD/CNY ลดลง 0.2% หลังพุ่งขึ้นแรงเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืด แม้รัฐบาลจะให้คำมั่นว่าจะออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมก็ตาม
เงินดอลลาร์สิงคโปร์ USD/SGD ลดลง 0.1% ขณะที่วอนเกาหลีใต้ USD/KRW ลดลง 0.2% ส่วนรูปีอินเดีย USD/INR เพิ่มขึ้น 0.1%
ดอลลาร์อ่อนค่าจากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย จับตาข้อมูล CPI
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ปรับตัวลดลงราว 0.2% ในตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นการขยายแนวโน้มขาลงจากคืนก่อน และยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
เงินดอลลาร์ถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับตลาดแรงงานและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะตัดความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมทั้งเตือนว่ามาตรการปฏิรูปของเขา ซึ่งรวมถึงการปลดข้าราชการจำนวนมาก การลดรายจ่ายภาครัฐ และการลดภาษี อาจทำให้เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังคงย้ำคำขู่เกี่ยวกับการขึ้นภาษีการค้าเพิ่มเติม
ตลาดยังต้องให้ความสนใจไปที่ข้อมูล CPI ที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต