Investing.com-- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงในวันศุกร์ เนื่องจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงเมื่อคืนนี้ นักลงทุนมีความไม่แน่นอนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% เพียงสองวันหลังจากกำหนดอัตราภาษี
ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ปิดตลาดต่ำลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนโยบายภาษีนำเข้าที่ผันผวนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เมื่อวันอังคารสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เพิ่มความตึงเครียดด้านการค้าด้วยการกำหนดอัตราภาษีศุลกากร 25% สำหรับสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก และเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าของจีนเป็น 20%
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เขาได้ผ่อนปรนท่าทีลงด้วยการเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นการบรรเทาภาระให้กับตลาดทั่วโลกเป็นการชั่วคราว
เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ได้ประกาศยกเว้นสินค้าที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกภายใต้ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) เป็นการชั่วคราว โดยเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน
การกำหนดอัตราภาษีศุลกากรในช่วงแรกนั้นได้ทำให้ตลาดทั่วโลกไม่มั่นคงแล้ว และการเลื่อนกำหนดดังกล่าวยังเพิ่มความผันผวน ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าและนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 2.1% ในวันศุกร์ ขณะที่ดัชนี TOPIX ลดลง 1.2%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 1.6%
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลง 0.2% หลังจากพุ่งขึ้น 3.2% ในเซสชันก่อนหน้า
ดัชนี Shanghai Composite ของจีนลดลง 0.1% ในขณะที่ดัชนี Shanghai Shenzhen CSI 300 ลดลง 0.3%
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ซื้อขายลดลง 0.4% ในขณะที่ดัชนี Nifty 50 Futures ของอินเดียเพิ่มขึ้น 0.2%
การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีนจะสิ้นสุดลงในวันอังคาร โดยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ ราคาผู้บริโภค และ ราคาผู้ผลิต จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม
ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ ราคาผู้บริโภค ของอินเดียจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าเช่นกัน
ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 4 ของญี่ปุ่น ที่ปรับปรุงแล้ว จะประกาศในวันอังคาร
นักวิเคราะห์ของ ING กล่าวในบันทึกว่า "มีแนวโน้มว่า GDP ไตรมาสที่ 4 จะถูกปรับลดลงเล็กน้อยจาก 0.7% ในไตรมาสต่อไตรมาส เมื่อปรับตามฤดูกาลแล้ว เป็น 0.5% เนื่องจากการใช้จ่ายด้านทุนจะออกมาต่ำกว่าที่คาด"