Investing.com - ราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อยในตลาดเอเชียวันนี้ ท่ามกลางความกังวลของตลาดเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีศุลกากรและการเพิ่มขึ้นของการผลิตทั่วโลก โดยนักลงทุนกำลังให้ความสนใจกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากการเพิ่มภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิบัติตามคำขู่ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก
ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานที่ระบุว่า องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) จะเดินหน้าตามแผนเพิ่มการผลิตเดิม แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันก็ได้รับแรงหนุนบางส่วนจากเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ 5% ในปี 2025 พร้อมกับการเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรายการ นอกจากนี้ ข้อมูลอุตสาหกรรมยังแสดงให้เห็นว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดไว้
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม ลดลง 0.2% มาเป็น 70.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.3% มาเป็น 67.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:51 น. (GMT+7) โดยทั้งสองสัญญายังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ทำไว้เมื่อต้นสัปดาห์นี้
จีนตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ที่ 5% และวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
จีนได้กำหนดเป้าหมาย GDP ที่ 5% สำหรับปี 2025 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นปีที่สามติดต่อกัน
ตัวเลขดังกล่าวถูกเปิดเผยในการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ซึ่งเป็นการประชุมทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของจีน
รัฐบาลปักกิ่งได้กำหนดงบประมาณขาดดุลที่สูงขึ้นสำหรับปี 2025 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงการใช้จ่ายทางการคลังที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนเพิ่มการออกตราสารหนี้ในปี 2025 เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการเงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นการบริโภค
สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาด
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐ (API) ระบุว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 0.3 ล้านบาร์เรล
ตัวเลขดังกล่าวมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มของข้อมูลน้ำมันคงคลังอย่างเป็นทางการ ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดการณ์เผยแพร่ในวันนี้ โดยสินค้าคงคลังน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมากติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์
การลดลงของน้ำมันคงคลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังช่วยเพิ่มความหวังว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงกำลังปรับตัวดีขึ้น และอุปทานน้ำมันของสหรัฐฯ อาจตึงตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากการที่ทรัมป์เรียกร้องให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ