Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากความสงสัยเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่สหรัฐเป็นตัวกลางนั้นส่งผลให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มเติม นอกจากนี้ สัญญาณความตึงเครียดในข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสก็มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นด้วย
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากร่วงลงในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ท่ามกลางปัจจัยลบมากมาย อย่างไรก็ตาม ราคานั้นยังคงใกล้ระดับต่ำสุดของปีนี้
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดเดือนพฤษภาคมปรับขึ้น 1.1% มาเป็น 73.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 1.1% แตะ 70.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:21 น. (GMT+7)
ราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นช่วยพยุงราคาน้ำมันไว้บางส่วน
ข้อตกลงการหยุดยิงเผชิญความไม่แน่นอน หลังทรัมป์ปะทะกับเซเลนสกี
เกิดข้อสงสัยว่าสหรัฐฯ จะสามารถเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้หรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีของยูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี มีการประชุมที่ตึงเครียดที่ทำเนียบขาวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เซเลนสกีออกจากที่ประชุมโดยไม่ได้ลงนามในข้อตกลงจัดหาทรัพยากรแร่ที่วางแผนไว้
แต่เซเลนสกีก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำยุโรปเมื่อวันอาทิตย์ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดหายุทโธปกรณ์ให้ยูเครน ซึ่งบ่งชี้ว่าสงครามอาจยังไม่จบลงในเร็ว ๆ นี้
ความเปลี่ยนแปลงในช่วงสุดสัปดาห์ยังทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจใช้เวลานานกว่าที่ทรัมป์เคยระบุไว้ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันกำหนดราคาค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงที่สูงขึ้น
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเริ่มต้นในช่วงต้นปี 2022 ได้สร้างความปั่นป่วนต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลก และทำให้รัสเซียถูกคว่ำบาตรอย่างเข้มงวด ซึ่งจำกัดการขายน้ำมันของประเทศลงอีก
ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและฮามาสเพิ่มความเสี่ยงในตลาดน้ำมัน
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาณความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงที่เพิ่งลงนามไป
อิสราเอลได้สั่งระงับความช่วยเหลือทั้งหมดที่ไหลเข้าสู่ฉนวนกาซา หลังจากที่ฮามาสปฏิเสธข้อเสนอขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราว และยืนยันข้อเรียกร้องให้มีการยุติสงครามอย่างถาวรแทน
การเคลื่อนไหวของอิสราเอลและคำแถลงของฮามาสแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของข้อตกลงหยุดยิงล่าสุด ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ความขัดแย้งจะปะทุขึ้นอีกครั้ง
แม้ว่าฮามาสจะปล่อยตัวตัวประกันบางส่วนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงรอบแรก แต่การเจรจาเกี่ยวกับการปล่อยตัวตัวประกันเพิ่มเติม ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของอิสราเอล กลับหยุดชะงัก โดยกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขที่มากขึ้นจากฝั่งอิสราเอล