tradingkey.logo

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขยับขึ้นหลังการเทขายหุ้นเทคฯ Nvidia ร่วงหนัก จับตาข้อมูล PCE

Investing.com28 ก.พ. 2025 เวลา 2:04

Investing.com - ดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี โดยตลาดวอลล์สตรีทปิดลดลงอย่างหนักเพราะถูกกดดันจากการร่วงลงอย่างรุนแรงของ Nvidia หลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนรายงานเงินเฟ้อที่สำคัญซึ่งมีกำหนดการณ์เผยแพร่ภายในสัปดาห์นี้

S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.2% มาเป็น 5,888.75 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.4% มาเป็น 20,678.25 จุด ณ เวลา 07:19 น. (GMT+7) และ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.1% มาเป็น 43,331.0 จุด

Nvidia ร่วงหนักกดดัน S&P 500 และ Nasdaq

หุ้นของ NVIDIA (NASDAQ:NVDA) ร่วงลงอย่างหนักถึง 8.5% ในวันพฤหัสบดี ปิดที่ 120.15 ดอลลาร์ แม้ว่าบริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ที่แข็งแกร่งและสูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ก็ตาม

การร่วงลงนี้เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับอัตรากำไรที่ลดลงและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในตลาดชิป AI ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเร่งเปิดตัวระบบและชิป Blackwell

ในช่วงระหว่างเซสชั่น ดัชนี NASDAQ คอมโพสิต ร่วงลง 2.8% ปิดที่ 18,544.52 จุด สะท้อนถึงแรงขายที่เกิดขึ้นในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ ดาวโจนส์ ลดลง 0.4% และ S&P 500 ปิดลดลง 1.6% ที่ 5,861.70 จุด

หุ้นของผู้ผลิตชิปรายอื่น ๆ ก็ร่วงลงเช่นกัน โดย Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) ร่วง 7.1% และ Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) ลดลง 5%

นอกจากนี้ หุ้นของ Salesforce Inc (NYSE:CRM) ร่วงลงกว่า 4% หลังจากที่บริษัทซอฟต์แวร์รายนี้เปิดเผยคาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ถึงการชะลอตัว จับตารายงานเงินเฟ้อ PCE

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันพุธว่าจำนวน ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก สำหรับสัปดาห์ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่าสาเหตุนั้นมาจากการปลดพนักงานของบริษัทต่าง ๆ และสภาพอากาศหนาวจัดที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่

ขณะเดียวกัน สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐก็ได้เปิดเผยประมาณการครั้งที่สองของตัวเลข GDP สำหรับไตรมาสที่ 4 โดยยืนยันว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่อัตรา 2.3% ต่อปี ซึ่งชะลอลงจากอัตราการเติบโต 3.1% ในไตรมาสที่สาม

ข้อมูลดัชนี PMI ภาคการบริการในสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ซึ่งช่วยหนุนความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 แม้ว่าในระยะสั้นนี้เฟดอาจจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมก็ตาม

อีกทั้งนักลงทุนก็ยังกำลังรอรายงานข้อมูล ดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยรายงานดังกล่าวมีกำหนดการณ์เผยแพร่ในวันนี้ โดยตัวเลขคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมกราคม และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

แม้ตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อรายปี แต่ต้นทุนที่ยังคงสูงในภาคส่วนสำคัญ เช่น ที่อยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพ ก็ยังคงเป็นภาระต่อผู้บริโภค

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI