tradingkey.logo

ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าทองแดง ชี้การผลิตควรกลับมาอยู่ในสหรัฐฯ

Investing.com26 ก.พ. 2025 เวลา 2:36

Investing.com - ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขากำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้า ทองแดง เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และย้ำว่าการผลิตทองสีแดงนี้ควรกลับมาอยู่ในสหรัฐฯ

ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐ “ศึกษาการนำเข้าทองแดง” และยุติ “การค้าที่ไม่เป็นธรรม” ซึ่งเขาอ้างว่าการค้าดังกล่าวกำลังขโมยงานของชาวอเมริกัน

“ภาษีจะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมทองแดงของอเมริกา และเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ อุตสาหกรรมของอเมริกาพึ่งพาทองแดง และมันควรจะผลิตในอเมริกา” ทรัมป์กล่าวในโพสต์บนโซเชียลมีเดีย

“ถึงเวลาที่ทองแดงต้อง ‘กลับบ้าน’ แล้ว” ทรัมป์กล่าวเสริม

ในคำสั่งฝ่ายบริหารของเขา ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับ “ความเปราะบางที่สำคัญ” ในห่วงโซ่อุปทานทองแดง เนื่องจากต้องพึ่งพาแหล่งแร่ทองแดง ถลุง และหลอมจากต่างประเทศ

จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจประชากร ชิลี แคนาดา และเม็กซิโก ถือเป็นซัพพลายเออร์ทองแดงรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ แต่คำสั่งนี้ดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่ จีน ซึ่งเป็นผู้หลอมทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก

ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า ในปีที่ผ่านมาสหรัฐขุดทองแดงได้ประมาณ 1.1 ล้านเมตริกตัน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้ภายในประเทศเอง โดย Freeport-McMoRan (NYSE:FCX) และ Rio Tinto (NYSE:RIO) เป็นผู้ดำเนินการเหมืองทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ สหรัฐยังมีโรงถลุงทองแดงที่เปิดดำเนินการอยู่ 3 แห่ง และยังคงเป็นผู้ส่งออกสุทธิของสินแร่และหัวแร่ทองแดง

ก่อนหน้านี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีนำเข้า เหล็กและอะลูมิเนียม ในอัตรา 25% โดยให้เหตุผลว่ามาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการผลิตในประเทศ

ประธานาธิบดีสหรัฐยังกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า แผนเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า

การขึ้นภาษีดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของวาระงานโดยรวมของทรัมป์ ซึ่งมุ่งใช้มาตรการภาษีเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า และกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ ของสินค้าโภคภัณฑ์หลัก แต่ภาษีที่สูงขึ้นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก และอาจทำให้ประเทศเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ ต้องออกมาตรการตอบโต้กลับมา

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI