Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าเล็กน้อยในวันนี้และสามารถฟื้นตัวจากการขาดทุนล่าสุดได้บางส่วน ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงก่อนถึงเส้นตายวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะพิจารณาเรียกเก็บภาษีการค้ารอบใหม่
บรรยากาศในตลาดเอเชียยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขดัชนี PMI ของจีนและญี่ปุ่นที่ออกมาดีกว่าคาด แม้ตัวเลขจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินเพียงเล็กน้อยก็ตาม
สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ยังคงได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากมีแนวโน้มที่สหรัฐจะเก็บภาษีการค้ารอบใหม่ ขณะที่ข้อมูลดัชนีราคา PCE ก็ยังชี้ให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้อมูลจะบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงก็ตาม
ตลาดยังคงจับตาการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อจีน
ในบรรดาสกุลเงินเอเชีย เงินเยนของญี่ปุ่นในคู่ USDJPY อ่อนค่าลง 0.3% หลังจากตัวเลข PMI ภาคการผลิต ออกมาสูงกว่าคาด แม้ว่าตัวเลขจะยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียในคู่ AUD/USD แทบไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อ กำไรของบริษัท และการจ้างงานในไตรมาสที่สี่ออกมาผสมกัน
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ต่างก็ปรับตัวลดลงประมาณ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์
เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากท่าทีเชิง hawkish ของทรัมป์เกี่ยวกับภาษีการค้า โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลัตนิค ระบุว่าภาษีต่อเม็กซิโกและแคนาดาจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารนี้ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามแผนเรียกเก็บภาษี 25% หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% ต่อจีน ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้เช่นกัน หลังจากที่ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีลักษณะเดียวกันไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
แนวทางด้านภาษีของทรัมป์ได้ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ และสร้างความกังวลต่อตลาดเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากภาษีเหล่านี้จะเป็นภาระของผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐฯ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจากต้นทุนภาษีที่สูงขึ้น
ข้อมูล ดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญ แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมาย 2% ต่อปีของเฟดในเดือนมกราคม ทำให้ธนาคารกลางยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดยังต้องจับตาข้อมูล การจ้างงานนอกภาคเกษตร ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ตัวเลข ภาคการผลิต และ ภาคที่ไม่ใช่การผลิต ของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ ทั้งจากข้อมูลของภาครัฐและเอกชน
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะหลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2024
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังรอดูผลกระทบจากการเก็บภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น เนื่องจากทรัมป์ยังไม่มีท่าทีผ่อนปรนต่อนโยบายการค้ากับปักกิ่ง
ปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลให้ค่าเงินหยวนไม่มีการเคลื่อนไหวเชิงบวก โดยคู่ USD/CNY ขยับขึ้น 0.1% ในวันนี้
ในส่วนของสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ในคู่ USD/SGD แทบไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับค่าเงินรูปีของอินเดียในคู่ USD/INR