บริษัทเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบจากภาษีการโอนเงินสหรัฐฯ 5% ตามรายงานของ Barclays

Investing.com — สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันได้เปิดเผยข้อเสนอด้านภาษีที่หลายคนรอคอยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ในขณะที่นักการเมืองเร่งผ่านร่างกฎหมาย "ใหญ่และยอดเยี่ยม" ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการลดภาษีและการลดค่าใช้จ่ายก่อนวันระลึกถึงทหารผ่านศึก

แผนดังกล่าวครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การหักลดหย่อนภาษีของรัฐและท้องถิ่นไปจนถึงเครดิตภาษีพลังงานสะอาด

จากรายงานระบุว่า เสาหลักสําคัญของร่างกฎหมายงบประมาณของทรัมป์ ซึ่งจะเห็นการขยายการลดภาษีที่เริ่มใช้ในสมัยแรกของประธานาธิบดี อาจเพิ่มหนี้ของประเทศประมาณ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า การลดภาษีเองจะมีค่าใช้จ่าย 3.72 ล้านล้านดอลลาร์ ตามรายงานของรอยเตอร์

เพื่อชดเชยการลดลงของภาษีบางส่วน พรรครีพับลิกันได้เสนอการเพิ่มภาษีหลายรายการ

หนึ่งในข้อเสนอคือการโอนเงินโดยบุคคลไปยังสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศจะต้องเสียภาษีใหม่ 5% ที่สําคัญคือ พลเมืองอเมริกันจะไม่ต้องเสียภาษีนี้ ซึ่งหมายความว่าแรงงานอพยพในสหรัฐฯ ที่ส่งเงินไปต่างประเทศอาจได้รับผลกระทบ

"หากผ่านตามที่เขียนไว้ (ซึ่งเป็น ’หาก’ ที่ใหญ่มาก) เราเห็นอุปสรรคมากขึ้นสําหรับผู้ให้บริการที่มีลูกค้าที่ไม่มีเอกสาร" นักวิเคราะห์ที่ Barclays กล่าวในบันทึกถึงลูกค้า "ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์สุดท้าย อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดอาจรู้สึกได้ผ่านช่องทางเงินสด/ค้าปลีก"

พวกเขาเสริมว่า อุตสาหกรรมนี้จะได้รับความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยระบุว่าสิ่งนี้จะ "ส่งผลกระทบอย่างไม่เป็นสัดส่วน" ต่อบริษัทอย่าง Western Union (NYSE:WU) และ Remitly (แนสแด็ก:RELY) โดยเฉพาะ

"ตัวอย่างเช่น ข้อกําหนดของร่างกฎหมายดูเหมือนจะออกแบบมาไม่เพียงเพื่อสร้างรายได้จากภาษีสรรพสามิต แต่ยังบังคับให้ผู้ให้บริการโอนเงินทั้งหมดตรวจสอบและรายงานสถานะความเป็นพลเมืองของลูกค้า" นักวิเคราะห์เขียน

"นอกจากนี้ กระบวนการเรียกคืนภาษีดูเหมือนจะไม่ราบรื่น: เนื้อหาของร่างกฎหมายที่เสนอกล่าวถึงการยื่นเอกสารประจําปีของผู้บริโภคกับรัฐบาลเพื่อเรียกคืนภาษีสรรพสามิตรวม/รวมทั้งหมดของผู้ส่งที่เก็บตลอดปีก่อนหน้า"

อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ระบุว่ายังมีเส้นทางอีกยาวไกลสําหรับร่างกฎหมายงบประมาณของพรรครีพับลิกันที่จะต้องผ่านก่อนที่จะกลายเป็นกฎหมาย นอกจากการผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว มาตรการนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาก่อนที่จะส่งไปยังโต๊ะของทรัมป์ ซึ่งจะลงนามเป็นกฎหมาย

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน