UBS ลดมุมมองต่อหุ้นสหรัฐฯ หลังจากพุ่งขึ้น 11% จากความกังวลด้านการค้าที่ลดลง

Investing.com — UBS ปรับลดอันดับหุ้นสหรัฐฯ เป็น การคงสัดส่วนการลงทุน จากระดับน่าสนใจ หลังจาก S&P 500 พุ่งขึ้น 11% ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน

ธนาคารชี้ว่าโอกาสในการเติบโตลดลงหลังจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ผลักดันให้ตลาดปรับตัวขึ้น

"เราปรับลดอันดับหุ้นสหรัฐฯ เป็น การคงสัดส่วนการลงทุน จากระดับน่าสนใจ" UBS กล่าว โดยระบุว่า "ความเสี่ยงและผลตอบแทนในตลาดหุ้นตอนนี้มีความสมดุลมากขึ้น"

บริษัทได้ปรับเพิ่มอันดับหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 เมษายน โดยให้เหตุผลว่าตลาดได้รวมความกังวลเกี่ยวกับการค้าที่มากเกินไปไว้แล้ว แต่เมื่อภาษีถูกระงับชั่วคราวและตลาดฟื้นตัว UBS เชื่อว่าการเติบโตที่ง่ายได้ผ่านไปแล้ว

เมื่อวันจันทร์ S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.3% และ Nasdaq พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากสหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะลดภาษีเป็นเวลา 90 วันในขณะที่การเจรจายังคงดําเนินต่อไป

ภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้านําเข้าจากจีนจะลดลงเหลือ 30% จาก 145% ในขณะที่จีนจะลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 10% จาก 125%

"อัตราและขนาดของการลดภาษีที่ตกลงกันในรอบแรกนี้เกินความคาดหวังของตลาด" UBS กล่าว

แม้จะมีการปรับลดอันดับ UBS เน้นย้ําว่า "ไม่ใช่มุมมองที่เป็นลบ หรือเป็นการเรียกร้องให้ขายหุ้น"

"ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูง" UBS เตือน "และนักลงทุนจะเริ่มให้ความสําคัญกับว่าการแก้ไขชั่วคราวนี้จะพัฒนาไปสู่ข้อตกลงที่ยั่งยืนได้หรือไม่"

ธนาคารยังคงแนะนําให้มีการจัดสรรเชิงกลยุทธ์เต็มรูปแบบในหุ้นสหรัฐฯ และคาดว่าตลาดหุ้นจะสูงขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า

การให้ความสําคัญกับภาคส่วนต่างๆ ของ UBS ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยให้อันดับน่าสนใจกับบริการสื่อสาร เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ และสาธารณูปโภค

มองไปข้างหน้า UBS กล่าวว่า "ความยั่งยืนของการฟื้นตัวนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยสําคัญสองประการ: ว่าผู้เจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ให้เป็นข้อตกลงทางการค้าที่ยั่งยืนได้หรือไม่ และปักกิ่งจะดําเนินการกับมาตรการกระตุ้นที่คาดการณ์ไว้อย่างไร"

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน