เศรษฐกิจของใคร?

Investing.com — ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเศรษฐกิจของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ถูกสร้างขึ้นบนการใช้จ่ายของรัฐบาลที่มากเกินไปและการอพยพเข้าเมือง จากเดือนมกราคม 2021 ถึงเดือนมกราคม 2025 คณะกรรมการเพื่องบประมาณรัฐบาลที่รับผิดชอบประมาณการว่าไบเดนเพิ่มหนี้ระยะเวลา 10 ปีผ่านกฎหมายและคําสั่งบริหารเป็นจํานวน 4.7 พันล้านดอลลาร์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โดนัลด์ ทรัมป์ กําลังใช้แนวทางที่แตกต่างกันมากในวาระที่สองของเขา โดยลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ส่งผู้อพยพผิดกฎหมายกลับประเทศ และใช้ภาษีศุลกากรเพื่อเก็บรายได้และนําการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ

แม้จะอยู่ในช่วงต้นของวาระ การกระทําของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีศุลกากร กําลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแล้ว แต่มีขอบเขตเพียงใด และเราจะตอบคําถามที่ว่า "เศรษฐกิจนี้เป็นของใคร" ได้อย่างไร

ประธานาธิบดีทรัมป์ดูเหมือนจะเล่นทั้งสองด้านในเรื่องนี้ เขาผลักดันความเห็นซ้ําๆ ว่าสิ่งไม่ดีใดๆ ในเศรษฐกิจมาจากไบเดน เช่นเดียวกัน สิ่งดีๆ ทั้งหมดเป็นผลงานของเขา

"ผมคิดว่าส่วนที่ดีคือเศรษฐกิจของทรัมป์ และส่วนที่แย่คือเศรษฐกิจของไบเดน เพราะเขาทํางานได้แย่มาก" ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Meet the Press ของ NBC เมื่อวันอาทิตย์

เพื่อตอบคําถามหลัก เราได้ดูข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดและพยายามกําหนดว่านโยบายของรัฐบาลใดเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของข้อมูล

รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญที่สุดสามรายการในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แก่: รายงานการจ้างงานเดือนเมษายน, รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 1 และดัชนีราคาผู้บริโภค

การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายน

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. มีการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนที่ 177,000 ตําแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 138,000 ตําแหน่ง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเดือนกุมภาพันธ์ถูกปรับลดลง 15,000 ตําแหน่ง และเดือนมีนาคมถูกปรับลดลง 43,000 ตําแหน่ง อัตราการว่างงานคงที่ที่ 4.2% เมื่อดูข้อมูลเชิงลึก การจ้างงานในด้านการดูแลสุขภาพ การขนส่งและคลังสินค้า กิจกรรมทางการเงิน และการช่วยเหลือทางสังคมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และการจ้างงานของรัฐบาลกลางลดลง การจ้างงานในภาคการผลิตแสดงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ในภาครัฐบาล การจ้างงานของรัฐบาลกลางลดลง 9,000 ตําแหน่งในเดือนเมษายน และลดลง 26,000 ตําแหน่งตั้งแต่เดือนมกราคม

มุมมองของ Investing.com การลดการจ้างงานของรัฐบาลกลางเกี่ยวข้องกับทั้งไบเดนและทรัมป์ ไบเดนทําให้รัฐบาลพองตัวในขณะที่ทรัมป์ลดขนาดลง ข้อมูลหลักมีความผสมผสาน เนื่องจากยอดรวมที่ปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 1:

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาสแรกแสดงการลดลง 0.3% เทียบกับการคาดการณ์ที่ลดลง 0.2% และเพิ่มขึ้น 2.4% ในไตรมาสที่สี่ ประเด็นสําคัญที่สุดคือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในไตรมาสแรกสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของการนําเข้าเป็นหลัก ซึ่งเป็นการหักลบในการคํานวณผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และการลดลงของการใช้จ่ายของรัฐบาล

มุมมองของ Investing.com: การเพิ่มขึ้นของการนําเข้าในไตรมาสแรกเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับนโยบายของทรัมป์ เนื่องจากบริษัทต่างๆ เร่งนําเข้าสินค้าก่อนที่ภาษีศุลกากรจะมีผล

ดัชนีราคาผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีการรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง 0.1 เปอร์เซ็นต์เทียบกับการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น 0.1% ปัจจัยขับเคลื่อนที่สําคัญที่สุดคือการลดลงของราคาน้ํามัน ซึ่งลดลง 6.3%

มุมมองของ Investing.com: แนวคิด "ขุดเจาะเลยเพื่อน" ของทรัมป์ตั้งแต่เขาเข้ารับตําแหน่งกําลังส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาน้ํามันและก๊าซอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยในอนาคตก็มีส่วนทําให้ราคาลดลงด้วย

บทสรุป

โดยรวมแล้ว แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะแยกตัวออกจากปัญหาเศรษฐกิจโดยอ้างว่าปัญหาเหล่านั้นไม่ได้เป็นผลมาจากการกระทําหรือนโยบายของเขา แต่การพิจารณาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สําคัญข้างต้นอย่างใกล้ชิดเผยให้เห็นว่าอิทธิพลของเขามีอยู่แล้วอย่างชัดเจน ผลกระทบพื้นฐานในรายงานเศรษฐกิจที่เน้นข้างต้นชี้ให้เห็นว่าสภาวะปัจจุบันสามารถสืบย้อนกลับไปยังการตัดสินใจและนโยบายที่เขาได้ดําเนินการไปแล้ว ไม่ว่าผลกระทบเหล่านั้นจะเป็นบวกหรือลบ พวกมันสะท้อนถึงรอยประทับของรัฐบาลของเขา นี่คือเศรษฐกิจของทรัมป์แล้ว และเขาต้องเริ่มรับผิดชอบทั้งด้านดีและด้านไม่ดี

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน