สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนมกราคม 2568 ที่สูงขึ้น 1.32% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงในช่วงนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.25-1.32% นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ยังเพิ่มขึ้น 0.83% ในเดือนเดียวกัน
การปรับเปลี่ยนรายการสินค้าในตะกร้าเงินเฟ้อให้ทันสมัยขึ้น โดยเพิ่มรายการสินค้าใหม่ 68 รายการ เช่น อโวคาโด, แซลมอน, สมาร์ทวอช และอื่นๆ เพื่อสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบันให้แม่นยำยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีการพิจารณานำเครื่องฟอกอากาศเข้ามาเป็นสินค้าจำเป็นในตะกร้าเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นั้น คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ เช่น มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในการลดค่าครองชีพ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. ชี้แจงว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1-1.2% โดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเป็นขาขึ้นอย่างน้อยถึงไตรมาสแรก ซึ่งเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
ในส่วนของมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อเนื่องจากไม่ได้เพิ่มต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแต่อย่างใด