tradingkey.logo

เงินเฟ้อเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.32% ต่อเนื่อง คาดว่า Q1/68 จะอยู่ที่ 1.1-1.2% เข้าสู่กรอบเป้าหมาย

TradingKey
ผู้เขียนTony
6 ก.พ. 2025 เวลา 8:57
  • ในเดือนมกราคม 2568 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.32% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยสำคัญคือราคาน้ำมันและสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับสูงขึ้น
  • การปรับปรุงรายการสินค้าในตะกร้าเงินเฟ้อให้ทันสมัย สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภค เพิ่มรายการสินค้าใหม่ 68 รายการ เช่น อโวคาโดและสมาร์ทวอช
  • คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 1.1-1.2% โดยมีปัจจัยส่งเสริมทั้งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนมกราคม 2568 ที่สูงขึ้น 1.32% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงในช่วงนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.25-1.32% นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ยังเพิ่มขึ้น 0.83% ในเดือนเดียวกัน

การปรับเปลี่ยนรายการสินค้าในตะกร้าเงินเฟ้อให้ทันสมัยขึ้น โดยเพิ่มรายการสินค้าใหม่ 68 รายการ เช่น อโวคาโด, แซลมอน, สมาร์ทวอช และอื่นๆ เพื่อสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบันให้แม่นยำยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีการพิจารณานำเครื่องฟอกอากาศเข้ามาเป็นสินค้าจำเป็นในตะกร้าเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นั้น คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ เช่น มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในการลดค่าครองชีพ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. ชี้แจงว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1-1.2% โดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเป็นขาขึ้นอย่างน้อยถึงไตรมาสแรก ซึ่งเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ในส่วนของมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อเนื่องจากไม่ได้เพิ่มต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแต่อย่างใด

ตรวจสอบโดยTony
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI