นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก KKP Research เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวเพียง 2.6% ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากภาคท่องเที่ยวและบริการที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญกำลังเริ่มฟื้นตัวเข้าสู่สภาวะปกติ การแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมและส่งออกยังคงเป็นแรงกดดันสำคัญ นอกจากนี้ การหดตัวของสินเชื่อธนาคารจากปัญหาหนี้ครัวเรือนยังส่งผลกระทบต่อการบริโภคและภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
ในด้านปัจจัยภายนอก เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรอง ส่งผลให้ไทยและอาเซียนอาจตกเป็นเป้าหมายของมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ไทยมีมาตรการกีดกันการนำเข้า อย่างไรก็ตาม การย้ายฐานการลงทุนอาจเป็นโอกาสให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์ จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมและเจรจาต่อรองอย่างมีประสิทธิภาพ
นายพิพัฒน์ยังระบุว่า การใช้นโยบายการคลังและการเงินจะมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความเสี่ยง รวมถึงการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่สนับสนุนการลงทุนและเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจเกิดขึ้นในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลต้องพิจารณาการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการคลังและหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ความจำเป็นในการปฏิรูประบบราชการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน