Coinbase เตรียมขยายบริการอนุพันธ์ด้วยการเข้าซื้อ Deribit มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์

Investing.com - Coinbase (แนสแด็ก:NASDAQ:COIN) หนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโตชั้นนําของโลก ได้ประกาศข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการ Deribit ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายออปชั่นคริปโตอันดับหนึ่งของโลกที่มีมูลค่าราคาเปิดในปัจจุบันประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์ การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์นี้คาดว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจอนุพันธ์ของ Coinbase อย่างมีนัยสําคัญ ทําให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มชั้นนําระดับโลกสําหรับอนุพันธ์คริปโต

แพลตฟอร์มออปชั่นที่แข็งแกร่งของ Deribit จะช่วยเสริมธุรกิจฟิวเจอร์สในสหรัฐฯ และฟิวเจอร์สต่อเนื่องระหว่างประเทศของ Coinbase ทําให้บริการอนุพันธ์ของบริษัทครบวงจร การเข้าซื้อกิจการนี้เป็นก้าวสําคัญสู่เป้าหมายของ Coinbase ในการให้นักเทรดเข้าถึงการซื้อขายแบบสปอต ฟิวเจอร์ส ฟิวเจอร์สต่อเนื่อง และออปชั่นบนแพลตฟอร์มที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพด้านเงินทุน

ด้วยการเข้าซื้อกิจการนี้ Coinbase จะก้าวขึ้นเป็นผู้นําระดับโลกในตลาดอนุพันธ์คริปโตโดยพิจารณาจากราคาเปิดและปริมาณการซื้อขายออปชั่น ในปีที่ผ่านมา Deribit ได้อํานวยความสะดวกในการซื้อขายมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในตลาดสําคัญนอกสหรัฐฯ โดยมีความต้องการสูงจากนักลงทุนสถาบันและนักเทรดขั้นสูง ข้อตกลงนี้จะทําให้ Coinbase อยู่ในตําแหน่งที่จะนําการขยายตัวที่อาจเกิดขึ้นของออปชั่นคริปโต คล้ายกับการเติบโตของออปชั่นหุ้นในช่วงทศวรรษ 1990

การเพิ่ม Deribit จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทํากําไรและเพิ่มความหลากหลายและความยั่งยืนให้กับรายได้จากการซื้อขายของ Coinbase ทันที รายได้จากการซื้อขายออปชั่นมักจะมีความผันผวนตามวัฏจักรน้อยกว่าการซื้อขายแบบสปอต เนื่องจากนักเทรดใช้ออปชั่นเพื่อจัดการความเสี่ยงทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง Deribit มีประวัติที่สม่ําเสมอในการสร้าง EBITDA ที่ปรับแล้วเป็นบวก ซึ่งคาดว่าจะเติบโตขึ้นเมื่อรวมกิจการกัน

Luuk Strijers ซีอีโอของ Deribit แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับการร่วมมือกับ Coinbase โดยระบุว่าการเข้าซื้อกิจการจะเร่งรากฐานที่พวกเขาได้วางไว้ พร้อมทั้งมอบโอกาสมากขึ้นให้กับนักเทรดในการซื้อขายแบบสปอต ฟิวเจอร์ส ฟิวเจอร์สต่อเนื่อง และออปชั่น

Coinbase จะจ่ายประมาณ 2.9 พันล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยเงินสด 700 ล้านดอลลาร์ และหุ้นสามัญ Class A ของ Coinbase จํานวน 11 ล้านหุ้น ขึ้นอยู่กับการปรับราคาซื้อตามปกติ การทําธุรกรรมนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานกํากับดูแลและเงื่อนไขการปิดตามปกติอื่นๆ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน