tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ฟื้นตัวขึ้นอีกที่ $47.50; ยังไม่พ้นจากปัญหา

FXStreet29 ต.ค. 2025 เวลา 5:15
  • โลหะเงินดึงดูดผู้ซื้อในวันพุธและเคลื่อนตัวออกจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าเดือน
  • การตั้งค่าทางเทคนิคที่หลากหลายทำให้ต้องระมัดระวังก่อนที่จะวางตำแหน่งเพื่อการเพิ่มขึ้นเพิ่มเติม
  • ตลาดหมีต้องรอการทะลุระดับแนวรับที่ $45.55 ก่อนที่จะวางเดิมพันใหม่

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) กำลังซื้อขายด้วยแนวโน้มเชิงบวกในช่วงเซสชั่นเอเชียในวันพุธ และมองหาการสร้างฐานจากการดีดตัวขึ้นในช่วงข้ามคืนจากบริเวณระดับกลาง $45.00 หรือระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน โลหะสีขาวลอยตัวอยู่รอบๆ บริเวณ $47.45-47.50 เพิ่มขึ้น 0.80% ในวัน แต่การปรับตัวขึ้นนี้ขาดความเชื่อมั่นจากตลาดกระทิงก่อนการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย FOMC ที่คาดหวังอย่างสูง

จากมุมมองทางเทคนิค XAG/USD พบแนวรับที่ดีใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (SMA) 50 วันในวันอังคาร ซึ่งตอนนี้ตรงกับระดับ Fibonacci retracement 50% ของการวิ่งขึ้นในเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวขึ้นในภายหลังบ่งชี้ว่าการปรับฐานล่าสุดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่แตะเมื่อเดือนนี้อาจได้สิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ออสซิลเลเตอร์ในกราฟรายวันเพิ่งเริ่มมีแรงกดดันเชิงลบ

ดังนั้น การเคลื่อนไหวขึ้นเพิ่มเติมที่เกินระดับ $48.00 ดูเหมือนจะดึงดูดผู้ขายบางรายและเผชิญกับแนวต้านที่แข็งแกร่งใกล้บริเวณ $48.65-$48.70 อย่างไรก็ตาม หากมีการซื้อขายตามมาที่เกินระดับ $49.00 อาจทำให้มุมมองเชิงลบถูกยกเลิกและกระตุ้นการเคลื่อนไหวของการปิดสั้นใหม่ XAG/USD อาจขยายโมเมนตัมการฟื้นตัวไปยังแนวต้านระดับกลางที่ $49.45 ก่อนที่จะมุ่งสู่การเรียกคืนระดับจิตวิทยาที่ $50.00

ในทางกลับกัน บริเวณ $47.00-$46.95 ดูเหมือนจะปกป้องการเคลื่อนไหวลงทันที ซึ่งหากต่ำกว่านั้น XAG/USD อาจลดลงต่ำกว่าระดับ $46.00 และทดสอบระดับต่ำสุดในช่วงข้ามคืนที่ประมาณ $45.55 หากมีการทะลุระดับนี้อย่างชัดเจน จะถือเป็นสัญญาณใหม่สำหรับนักเทรดขาลงและทำให้โลหะสีขาวขยายการลดลงไปยังระดับจิตวิทยาที่ $45.00 ระหว่างทางไปยังบริเวณ $44.45, ระดับ $44.00 และบริเวณ $43.55 (ระดับ Fibo 61.8%)

กราฟรายวันของโลหะเงิน

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI