tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAGUSD ส่องแสงใกล้ $37.00 ขณะที่การทะลุผ่านกระตุ้นขาขึ้น

FXStreet3 ก.ค. 2025 เวลา 20:46
  • โลหะเงินปรับตัวขึ้น 0.86% มองระดับสูงสุด YTD ที่ $37.31 หลังจากทะลุระดับสำคัญที่ $36.83.
  • การทะลุเหนือแนว neckline ของรูปแบบ double-bottom ชี้ให้เห็นถึงการต่อเนื่องในขาขึ้น.
  • แนวต้านถัดไปอยู่ที่ $37.49 (ระดับสูงสุดในปี 2012) จากนั้นที่ $38.00.

ราคาทองคำเงินเคลื่อนไหวเหนือระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี ใกล้ระดับ $37.00 ปรับตัวขึ้น 0.86% ณ เวลาที่เขียน ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสในสหรัฐอเมริกา (US) สนับสนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทองคำ โลหะสีเทาใช้ประโยชน์จากโครงสร้างตลาดในปัจจุบัน เนื่องจากมีรูปแบบ double-bottom ที่กำลังเกิดขึ้น.

การคาดการณ์ราคา XAG/USD: แนวโน้มทางเทคนิค

ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ โลหะเงินได้ทะลุขึ้นเหนือระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ $36.83 ซึ่งสนับสนุนการปรับตัวขึ้นไปที่ $37.00 อย่างไรก็ตาม ต้องมีการปิดราคารายวันเหนือระดับเดิมเพื่อให้ผู้ค้าเคลียร์เส้นทางไปท้าทายระดับสูงสุด YTD ที่ $37.31.

แนวต้านสำคัญถัดไปจะอยู่ที่ $37.49 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012 ก่อนที่จะถึง $38.00 ในทางกลับกัน โลหะเงินอาจมีแนวโน้มเป็นลบหากราคาต่ำกว่าระดับ $36.00 ซึ่งจะเปิดทางไปทดสอบที่ $35.82 เมื่อทะลุผ่านไปแล้ว จุดถัดไปจะอยู่ที่ $35.00 ก่อนที่จะท้าทายเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 50 วันที่ $34.32.

กราฟราคา XAG/USD – รายวัน

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI