tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาทองคำเงิน: XAG/USD ฟื้นตัวกลับมาเหนือ $36.00 ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง

FXStreet12 มิ.ย. 2025 เวลา 21:01
  • XAG/USD ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบห้าวัน สร้างแท่งเทียนรูปแบบแฮมเมอร์ขาขึ้น ขณะที่ USD ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามปี
  • รูปแบบแฮมเมอร์ขาขึ้นบ่งชี้ถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่กลับมาใหม่ไปยังระดับ $36.88 และ $37.49 — จุดสูงสุดในรอบ 13 ปี
  • RSI ยังคงคงที่แม้จะอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป สัญญาณบ่งชี้ว่าฝั่งผู้ซื้อยังคงควบคุมตลาด
  • แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ $36.00 และ $35.40; หากราคาต่ำกว่านี้จะเปิดทางไปยัง $35.00 และต่ำกว่า

ราคาโลหะเงินดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบห้าวันที่ $35.46 และขยับผ่านระดับ $36.00 ในวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินดอลลาร์ถูกกดดัน ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปี ขณะเขียนบทความนี้ XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ $36.30 โดยมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 0.25% ในวันพฤหัสบดี ช่วงท้ายตลาดอเมริกาเหนือ

การคาดการณ์ราคา XAG/USD: แนวโน้มทางเทคนิค

เมื่อสิ้นสุดเซสชันในวันพฤหัสบดี แนวโน้มขาขึ้นของโลหะเงินน่าจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากมีการสร้างรูปแบบแท่งเทียนเดียวที่เรียกว่า ‘แฮมเมอร์’ ซึ่งหมายความว่า XAG/USD อาจทดสอบระดับสูงสุดในวันที่ 9 มิถุนายนที่ $36.88 ก่อนที่ผู้ซื้อจะมองไปที่ราคาที่สูงขึ้น

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ออกจากโซนซื้อมากเกินไป แต่แทนที่จะมุ่งต่ำ กลับคงที่ ดังนั้นเส้นทางที่มีแรงต้านทานน้อยที่สุดจึงเอียงไปทางขาขึ้น

แนวต้านที่สำคัญแรกคือจุดสูงสุดในปีนี้ (YTD) ตามด้วยระดับ $37.00 เมื่อทะลุผ่านไปแล้ว จุดถัดไปจะเป็น $37.49 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ตั้งไว้เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์

ในทางกลับกัน หาก XAG/USD ร่วงต่ำกว่า $36.00 ระดับแนวรับแรกจะอยู่ที่ $35.40 ซึ่งเป็นระดับสูงจากเดือนตุลาคม 2012 ที่กลายเป็นระดับแนวรับไปแล้ว เมื่อทะลุผ่านไปแล้ว จุดถัดไปคือ $35.00 ตามด้วยระดับ $34.00 และ $33.00

กราฟราคา XAG/USD – รายวัน 

กราฟรายวันโลหะเงิน


โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI