tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: ฟื้นตัวเหนือ $50 ขณะที่นักลงทุนรอข้อมูล NFP ของสหรัฐฯ

FXStreet18 พ.ย. 2025 เวลา 9:29
  • ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นเล็กน้อยใกล้ $50.30 หลังฟื้นตัวจากขาลงในช่วงเช้า
  • โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 43%.
  • นักลงทุนรอข้อมูล NFP ของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงาน.

ในตลาดลงทุนยุโรปวันอังคาร ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) ฟื้นตัวจากขาลงในช่วงเช้า และปรับตัวเป็นบวกเล็กน้อยใกล้ $50.30 โลหะสีขาวปรับตัวลดลง นักลงทุนเริ่มระมัดระวังก่อนที่จะมีการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือนกันยายน ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดี

นักลงทุนรอข้อมูล NFP ของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณใหม่เกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาดแรงงาน ผู้เข้าร่วมตลาดการเงินขาดข้อมูลเกี่ยวกับสถานะตลาดงานเนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลักถูกระงับในช่วงเกือบเจ็ดสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากการชัตดาวน์รัฐบาลกลาง

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนในตลาดยังไม่กล้าเสี่ยง เนื่องจากการเก็งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้ลดลง ณ เวลาที่เขียน S&P 500 ฟิวเจอร์สซื้อขายลดลง 0.25% แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ระมัดระวัง.

ตามเครื่องมือ CME FedWatch ความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน (bps) สู่ระดับ 3.50%-3.75% ในการประชุมเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 43% จาก 62.4% ที่เห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว.

ในเชิงเทคนิค สถานการณ์ที่ลดความเชื่อมั่นในแนวโน้มผ่อนคลายของเฟดไม่เป็นผลดีต่อราคาโลหะเงิน เนื่องจากการหยุดชะงักในแคมเปญการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดส่งผลเสียต่อสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน.

การวิเคราะห์ทางเทคนิคของโลหะเงิน

ราคาโลหะเงินพบแนวรับหลังจากปรับตัวลงใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 20 วัน (EMA) ที่ประมาณ $49.70.

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันกลับเข้าสู่ช่วง 40.00-60.00 แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่ใจในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะสั้น.

มองลงไป ราคาสูงสุดในวันที่ 23 กันยายนที่ $44.47 จะยังคงเป็นแนวรับที่สำคัญ ขึ้นไปด้านบน ราคาสูงสุดตลอดกาลที่ $54.50 อาจทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่สำคัญ.

กราฟรายวันของโลหะเงิน


โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน


ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI