ในไตรมาส 3 ปี 2025 เทสลาทำรายได้ 28.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งทำสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทแรงหนุนหลักมาจากการส่งมอบรถยนต์ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากยอดขายรุ่น Model 3 และ Model Y แบบมาตรฐาน รวมถึงการเร่งซื้อก่อนหมดสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี
นอกจากนี้ ธุรกิจด้านพลังงานและบริการอื่นๆ ก็เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้เพิ่มขึ้น 44% และ 25% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม กำไรต่อหุ้นที่ปรับแล้วอยู่ที่ 0.50 ดอลลาร์ ลดลง 31% จากปีก่อน และต่ำกว่าความคาดหวังของตลาด เนื่องจาก:
แม้เทสลาจะทำสถิติใหม่ทั้งในการส่งมอบรถยนต์ (497,099 คัน) และการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (12.5 GWh) รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ที่ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 18% แต่ กำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) กลับลดลง 40% เหลือเพียง 1.6 พันล้านดอลลาร์ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานร่วงลง 501 basis points เหลือเพียง 5.8%
สาเหตุหลักมี 3 ประการ:
แนวโน้มระยะใกล้ยังไม่สดใส: หลังหมดสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี และเมื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นโดยไม่มีแรงหนุนจากรัฐบาล อัตรากำไรจากธุรกิจรถยนต์อาจยังคงถูกกดดันต่อไป
แม้กำไรจะถูกกดดัน แต่เทสลายังสร้าง กระแสเงินสดอิสระ (free cash flow) ได้เกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์ — สูงกว่าคาดถึง 3 เท่า!ส่งผลให้เงินสดและเงินลงทุนสะสมเพิ่มขึ้น 49,000 ล้านดอลลาร์ รวมเป็น 416,000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาส
เงินสดมหาศาลนี้คือ “เชื้อเพลิง” ที่จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ AI ของเทสลา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการระดมทุนจากตลาดทุน
ปัจจุบัน แม้ธุรกิจรถยนต์ยังเป็นแกนหลัก แต่บทบาทกำลัง “ลดลง”ด้วย P/E ที่สูงถึง 260 เท่า การประเมินมูลค่าแบบเดิมไม่สามารถอธิบายได้ — ตลาดกำลังมองเทสลาในฐานะ บริษัทเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วย AI มากกว่าผู้ผลิตรถยนต์
ในงานประชุมนักลงทุนไตรมาสนี้ เอลอน มัสก์และทีมบริหารแทบไม่พูดถึงรถยนต์รุ่นใหม่ แต่โฟกัสทั้งหมดไปที่:
ซึ่งถูกวางไว้เป็น “เสาหลักการเติบโตในอนาคต”
เทสลาตอนนี้กำลังสร้าง ระบบนิเวศ AI แบบครบวงจร ที่เชื่อมโยงกันทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ พลังงาน และหุ่นยนต์ — แต่ละส่วนมีศักยภาพตลาดระดับ “ล้านล้านดอลลาร์”:
แม้ยอดส่งมอบรถยนต์จะทำสถิติ แต่กำไรกลับลดลง — นี่ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็น “การลงทุนเชิงกลยุทธ์”เทสลาเลือกที่จะ “แลก” กำไรระยะสั้นจากธุรกิจรถยนต์ เพื่อเร่งปั้นระบบนิเวศ AI ระยะยาว
ขณะนี้ รถยนต์กลายเป็น “เครื่องพิมพ์เงินสด” (cash cow) ที่สนับสนุนการเติบโตของ FSD, Robotaxi, Optimus และ AI infrastructure
ปัจจุบัน หุ้นเทสลาต้อง เพิ่มขึ้นอีกกว่า 800% จึงจะถึงเป้าหมาย 4,000 ดอลลาร์ของคุณไม้ (Cathie Wood)แม้ตลาดจะเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ AI ของมัสก์ แต่มูลค่าประเมินที่สูงมากและแรงกดดันกำไรระยะสั้น อาจทำให้ราคาหุ้นผันผวนรุนแรงในช่วงนี้
แต่ในระยะยาว หาก FSD, Robotaxi หรือ Optimus สามารถ พาณิชย์ได้จริง และสร้างรายได้ระดับพันล้านดอลลาร์ได้ ราคาหุ้นเทสลาอาจพุ่งทะลุเป้าหมายได้โดยไม่ยาก
ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 ผู้ถือหุ้นเทสลาจะลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับ แพ็กเกจค่าตอบแทนมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ ให้มัสก์ — เป็นสิทธิซื้อหุ้นระยะยาว 10 ปี ที่จะ “ปลดล็อก” ก็ต่อเมื่อบริษัทบรรลุเป้าหมายยักษ์ใหญ่ เช่น:
เป้าหมายเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อ “ผูกมัด” มัสก์ให้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ AI
หากผู้ถือหุ้นไม่เห็นชอบ:
สรุป:เทสลาไม่ได้ขายแค่รถอีกต่อไป — บริษัทกำลังขาย “อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI”แต่การเดินทางสู่เป้า 4,000 ดอลลาร์จะไม่ราบรื่น และขึ้นอยู่กับว่า มัสก์จะอยู่นำทัพต่อไปได้หรือไม่… และวิสัยทัศน์ AI ของเขาจะ “กลายเป็นจริง” ได้เร็วแค่ไหน.
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว