tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD เคลื่อนไหวต่ำกว่า $32.50 ใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน

FXStreet1 พ.ค. 2025 เวลา 9:17
  • ราคาโลหะแร่เงินอาจเคลื่อนที่ในบริเวณรอบๆ แนวรับที่ $30.00
  • RSI 14 วันที่หลุดต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงยังคงมีอยู่
  • คู่เงินกำลังทดสอบแนวต้านเบื้องต้นที่เส้น EMA 50 วันที่ $32.44

ราคาโลหะแร่เงิน (XAG/USD) ยังคงขยายการขาดทุนเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $32.30 ต่อออนซ์ในช่วงเซสชันยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดี การวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟรายวันแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง โดยโลหะสีเทาหลุดต่ำกว่ารูปแบบกรอบราคาขาขึ้นที่มีอยู่

ราคาโลหะเงินยังคงอยู่ต่ำกว่าทั้งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 9 วันและ 50 วัน ซึ่งบ่งชี้ถึงโมเมนตัมราคาที่อ่อนแอในระยะสั้นที่ยังคงมีอยู่ นอกจากนี้ RSI 14 วันยังหลุดต่ำกว่า 50 ระดับ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงยังคงมีอยู่

ในด้านลบ ราคาโลหะเงินอาจเคลื่อนตัวในบริเวณรอบๆ แนวรับที่ $30.00 การหลุดต่ำกว่าระดับนี้อาจกดดันโลหะมีค่าให้ทดสอบระดับต่ำสุดในรอบแปดเดือนที่ $28.00 ซึ่งถูกทำเครื่องหมายไว้เมื่อวันที่ 7 เมษายน

ในด้านบวก คู่ XAG/USD กำลังทดสอบเส้น EMA 50 วันที่ $32.44 ตามด้วยเส้น EMA 9 วันที่ระดับ $32.72 การทะลุผ่านระดับเหล่านี้อาจฟื้นฟูโมเมนตัมราคาสั้นและสนับสนุนให้คู่เงินกลับสู่รูปแบบกรอบราคาขาขึ้น อุปสรรคเพิ่มเติมปรากฏอยู่รอบๆ จุดสูงสุดในรอบเจ็ดเดือนที่ $34.59 ซึ่งเห็นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม

XAG/USD: กราฟรายวัน

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI