TradingKey - ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก เพิ่มขึ้น 66.27 จุด หรือ +0.14% ปิดที่ระดับ 46,381.54 จุด เมื่อวันที่ 22 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่สามติดต่อกันที่ดัชนีหลักทั้งสามได้ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกลุ่มเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
โดยดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,693.75 จุด เพิ่มขึ้น 29.39 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ Nasdaq ปิดที่ 22,788.98 จุด เพิ่มขึ้น 157.50 จุด หรือ +0.70% หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นถึง +1.74% ทำให้ภาพรวมตลาดในวันดังกล่าวแข็งแกร่งเกินคาด
หุ้นของบริษัท Nvidia ได้พุ่งขึ้นถึง 3.9% หลังจากมีข่าวว่า บริษัทมีการลงทุนร่วมกับ OpenAI สูงถึง 100,000ล้านเพื่อนำเสนอบริการชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลอีกทั้งหุ้นAppleยังเพิ่มขึ้นถึง4.3100,000ล้านเพื่อนำเสนอบริการชิปสำหรับศูนย์ข้อมูลอีกทั้งหุ้นAppleยังเพิ่มขึ้นถึง4.3256.08 หลังจากบริษัท Wedbush ได้ปรับเพิ่มเป้าราคาอยู่ที่ 310จากเดิม310จากเดิม270 ส่วน Tesla ก็มีราคาหุ้นดีดตัวขึ้นเกือบ 2%
แต่ข่าวร้ายสำหรับหุ้น Kenvue ผู้ผลิตยาบรรเทาอาการไทลินอล เมื่อราคาหุ้นลดลงกว่า 7% เนื่องจากรายงานเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้ยาไทลินอลต่อผู้หญิงตั้งครรภ์ถูกนำเสนอ ในขณะที่ทรัมป์ประกาศให้สำนักงาน FDA ให้คำแนะนำไม่ใช้ยาอะเซตามิโนเฟน (พาราเซตามอล) ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักจนทำให้ระยะหลัง หุ้นของ Kenvue ฟื้นตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการประกาศที่จะมีผลต่อกรณีวีซ่า H-1B ที่อาจส่งผลกระทบใหญ่ต่อบริษัทใหญ่หลายแห่ง เช่น Amazon และ Microsoft เนื่องจากจะทำให้ค่าธรรมเนียมวีซ่าสูงถึง $100,000 ซึ่งจะสร้างความกดดันต่อตลาดแรงงานด้านเทคโนโลยี
ประธานเฟดบางคนได้แสดงท่าทีสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แม้ว่าจะมีการปรับลดไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกำลังเฝ้ารอดูความคิดเห็นของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ นอกจากนี้ยังติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอีกหลายรายการ รวมไปถึง GDP ประจำไตรมาสล่าสุดและมาตรวัดเงินเฟ้อ PCE ในเดือนสิงหาคมเพื่อตัดสินใจในการลงทุนครั้งถัดไป