TradingKey – ผู้นำกระแสปัญญาประดิษฐ์ Nvidia (NVDA) กำลังจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปีปฏิทิน 2025 ซึ่งถูกมองว่าเป็น “งบการเงินที่สำคัญที่สุดของตลาดทั้งหมด” เพราะจะเป็นตัวพิสูจน์ว่า ความต้องการและการลงทุนใน AI ยัง “สมคำร่ำลือ” หรือไม่
ตามข้อมูลจาก TradingKey นักวิเคราะห์คาดว่า Nvidia จะรายงานรายได้ไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2026 เพิ่มขึ้น 53% YoY สู่ 46 พันล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 51% YoY สู่ 1.01 ดอลลาร์ การเติบโตของทั้งสองตัวเลขเกิน 50% ตอกย้ำว่า ความต้องการ AI ยังคงอยู่ในเส้นทางการขยายตัวที่ร้อนแรง
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับปีที่ผ่านมา การเติบโตเริ่มชะลอลง — ไตรมาส 2 ปีที่แล้วรายได้โต 122% และ EPS โต 151% การชะลอลงจากตัวเลขสามหลักเหลือสองหลักมีหลายปัจจัย ทั้งผลตามธรรมชาติเมื่อธุรกิจเริ่มโตเต็มที่ มาตรการควบคุมการส่งออกชิปสู่จีนของรัฐบาลสหรัฐ และข้อจำกัดกำลังการผลิต Blackwell
แต่ Evercore ISI คาดว่า การเติบโตของ Nvidia อาจแตะจุดต่ำสุดที่ราว 50% ซึ่งเพียงพอที่จะดึงดูดนักลงทุนเชิงโมเมนตัม และนำไปสู่การขยายตัวต่อเนื่อง
ในด้าน “ดีมานด์เริ่มต้น” ลูกค้าหลักอย่าง Microsoft, Amazon และ Google ยังคงเพิ่มการลงทุน CapEx เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI
Matt Bryson นักวิเคราะห์จาก Wedbush กล่าวว่า การลงทุนระดับ hyperscale เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะไหลกลับมาสู่ Nvidia
ในมุมของดีมานด์ที่เริ่มใช้งานจริง (deployment) GPU ถูกนำไปติดตั้งในเซิร์ฟเวอร์ที่ ODM อย่าง Foxconn ออกแบบและผลิต ซึ่งสะท้อนถึงการส่งมอบ GPU ที่เร่งตัวขึ้น
KeyBanc Capital Markets ระบุว่า เนื่องจากอัตราการผลิต rack ของ GB200 server ดีขึ้นต่อเนื่อง (คาดว่าถึง 85%) ทำให้เชื่อว่าการส่งมอบจะอยู่ที่ 15,000–17,000 เครื่อง ใน Q4 และทั้งปี 2025 Blackwell rack จะถูกส่งมอบ 30,000 เครื่อง เกินกว่าคาดการณ์เดิมที่ 25,000 เครื่อง
Baird ชี้ว่า การส่งมอบ GB200 ในเดือนกรกฎาคมเริ่มเร่งตัว และแนวโน้มจะต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดย GB300 รุ่นใหม่จะมีการอัปเกรดสมรรถนะอย่างก้าวกระโดด
อย่างไรก็ตาม Stifel เตือนว่า ความเสี่ยงสำคัญยังคงอยู่ที่ ความต่อเนื่องของการลงทุนจาก hyperscale cloud จีนที่ถูกจำกัดอุปทาน และแรงกดดันต่อ gross margin ในช่วงเริ่มต้นของ GB300
แม้ Nvidia จะพยายามเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการควบคุมการส่งออกไปจีน แต่ตลาดจีนยังเผชิญความท้าทาย — ทั้งแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐ (อาจเก็บภาษี 15% จากรายได้) และคำสั่งภายในจีนที่กระตุ้นให้บริษัทท้องถิ่นหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Nvidia
Morgan Stanley ระบุว่า เนื่องจากแนวโน้มตลาดจีนยังไม่แน่นอน การให้ outlook รอบนี้อาจ “ระมัดระวัง” มากกว่าที่ตลาดคาดไว้
โดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์จาก Baird และ Stifel ย้ำว่า ความเป็นผู้นำของ Nvidia ในโครงสร้างพื้นฐาน AI “ยากที่จะสั่นคลอน” ขณะที่ Loop Capital มองว่า เทคโนโลยี AI กำลังเข้าสู่ “คลื่นทอง” ของแอปพลิเคชันรอบใหม่ และ Nvidia จะอยู่แถวหน้าของความต้องการที่เกินคาดในรอบต่อไป
แม้นักวิเคราะห์โดยรวมจะมองบวกต่อผลประกอบการนี้ แต่หากผู้บริหาร Nvidia แสดงความกังวลเกี่ยวกับจีน หรือนำเสนอมุมมองระมัดระวังเกินคาด ตลาดอาจตอบสนองด้วยแรงขายทันที
ตลาดยังคาดว่า การเติบโตของรายได้จะชะลอ นักลงทุนจึงอาจตอบรับด้านลบมากกว่าด้านบวก
ข้อมูลจากตลาดออปชันบ่งชี้ว่า นักลงทุนกำลังเดิมพันว่า ราคาหุ้น Nvidia ในวันประกาศงบอาจผันผวน ±6% ซึ่งต่ำกว่าความผันผวนเฉลี่ย 7.7% ของงบการเงินไตรมาส 12 รอบล่าสุด และความผันผวนจริงเฉลี่ยที่ 7.6%
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว