tradingkey.logo

อินเทลเตือนหายาก! รัฐบาลถือหุ้นอาจกลายเป็น “ดาบสองคม” เสี่ยงกระทบยอดขายทั่วโลกและโซ่อุปทานเงินอุดหนุน

TradingKey
ผู้เขียนHuanyao Fang
26 ส.ค. 2025 เวลา 7:12

TradingKey - บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ Intel (INTC.US) ได้ออกคำเตือนในเอกสารแบบ 8-K ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ว่าข้อตกลงการลงทุนมูลค่า 8.9 พันล้านดอลลาร์ กับรัฐบาลกลาง อาจสร้างความเสี่ยงหลายด้านต่อธุรกิจของบริษัท

Intel's official disclosure statement

ตามข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลสหรัฐฯ จะเข้าถือหุ้นราว 9.9% ของอินเทล กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด และหากธุรกิจการผลิตชิปไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ สัดส่วนการถือหุ้นอาจเพิ่มขึ้นถึง 15%

อินเทลระบุชัดว่า การที่รัฐบาลถือหุ้นอาจสร้างผลเสียต่อธุรกิจต่างประเทศ เนื่องจาก 76% ของรายได้ปีงบประมาณ 2024 มาจากตลาดนอกสหรัฐฯ การถูกมองว่าเป็น “รัฐวิสาหกิจ” อาจทำให้บริษัทเผชิญกับการตรวจสอบจากต่างชาติที่เข้มงวดขึ้น การจำกัดด้านกฎระเบียบ หรือแม้กระทั่งการถูกกีดกันออกจากตลาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังไม่แน่ใจว่าข้อตกลงนี้จะกระทบต่อการขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลต่างประเทศในอนาคตหรือไม่ และอาจกระตุ้นให้บางประเทศเปลี่ยนรูปแบบการสนับสนุนจาก “เงินอุดหนุน” เป็น “การถือหุ้น” ตามรอยสหรัฐฯ

เงินลงทุนรอบนี้ประกอบด้วย 5.7 พันล้านดอลลาร์ ที่มาจากเงินอุดหนุนตาม CHIPS and Science Act ของรัฐบาลไบเดน (ซึ่งยังไม่ได้จ่าย) และอีก 3.2 พันล้านดอลลาร์ จากโครงการ “Secure Enclave” แม้ว่าจะถูกมองว่าเป็นแรงสนับสนุนสำคัญต่อการฟื้นฟูกำลังการผลิตของอินเทล แต่บริษัทก็ยอมรับว่าการออกหุ้นใหม่ที่ราคา 20.47 ดอลลาร์ ต่ำกว่าตลาดกว่า 17% จะสร้างแรงกดดันให้ผู้ถือหุ้นเดิมถูก dilution

ความกังวลเชิงลึกยังอยู่ที่โครงสร้างการกำกับดูแล อินเทลเตือนว่า รัฐบาลซึ่งมีสถานะทั้ง “ผู้กำกับดูแล” และ “ผู้ถือหุ้น” อาจใช้บทบาทด้านกฎหมายและการกำกับดูแลเพื่อขัดขวางธุรกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น หรือลดอำนาจโหวตของผู้ถือหุ้นรายอื่น

แม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวย้ำว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงการดำเนินงานของบริษัท แต่ตลาดยังคงตั้งข้อสงสัย ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลว่า “หุ้นทั้งหมดของรัฐบาลในอินเทลเป็นของชาวอเมริกัน” สะท้อนถึงความเป็นประเด็นการเมืองที่เข้มข้น การที่อินเทลออกมาเปิดเผยความเสี่ยงอย่างชัดเจน จึงเป็นทั้งการเตือนนักลงทุน และเป็นภาพสะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่าง การแทรกแซงของรัฐ และ ความเป็นอิสระของธุรกิจเอกชน

ลิงค์เดิม

เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI